เมื่อวันที่ 20 ต.ค.65 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เปิดตัวโครงการ “เปลี่ยนขยะเป็นบุญ” (เมื่อคุณหมุนเวียน) เพื่อมูลนิธิขาเทียมฯ ต่อยอดการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง หมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์คืนสู่สังคม ส่งต่อมูลค่าให้กับมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เปลี่ยนกระป๋องอลูมิเนียมใบเก่าเป็น “ขาเทียม” ร่วมผนึกกำลังกว่า 9 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มอุตสาหกรรม
นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยในการประชุม COP26 ประเทศไทยได้ประกาศการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี ค.ศ. 2065 และยกระดับเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศไทยกำหนด หรือ NDC (Nationally Determined Contribution) เป็นร้อยละ 40 และเสริมสร้างขีดความสามารถจากความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประเทศไทยได้ประกาศให้ BCG Model เป็นวาระแห่งชาติ และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศอย่างครอบคลุมและยั่งยืน โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำกรอบแนวคิดการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG และพัฒนาเครื่องมือเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อมุ่งสู่ Build forward Greener ปรับเปลี่ยนชีวิตวีถีใหม่ อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สำหรับการเปิดตัวโครงการ “เปลี่ยนขยะเป็นบุญ” (เมื่อคุณหมุนเวียน) เพื่อมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นโครงการที่จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนนำกระป๋องเครื่องดื่มอลูมิเนียมที่ใช้แล้ว ส่งกลับคืนสู่กระบวนการรีไซเคิล เปลี่ยนเป็นมูลค่าสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยความร่วมมือจากหน่วยงานเครือข่าย ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มอุตสาหกรรม จำนวน 9 หน่วยงาน ได้แก่ 1. กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2. กรมควบคุมมลพิษ 3. มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 4. มูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R) 5. สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย 6. บริษัท ไทยเบเวอร์เรจ แคน จำกัด 7. บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด 8. กลุ่มบริษัท บีเจซี บิ๊กซี 9. บริษัท สถานีรีไซเคิล วงษ์พาณิชย์สุวรรณภูมิ จำกัด โดยมีเป้าหมายรวบรวมกระป๋องอลูมิเนียมใช้แล้วจำนวน 1,800,000 กระป๋อง กลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และมีแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการ โดยการเพิ่มการประชาสัมพันธ์กิจกรรมสำหรับผู้ที่สนใจ ได้เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งการรณรงค์ให้ประชาชนมีการคัดแยกขยะกระป๋องอลูมิเนียมที่ใช้แล้ว ให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริจาควัสดุอลูมิเนียม พร้อมทั้งขยายช่องทางการรับบริจาคให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น นอกจากนี้ การรวบรวมอลูมิเนียมที่ได้รับบริจาคเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยเครือข่ายผู้รวบรวม สามารถนำมาแปลงเป็นมูลค่าตามราคาที่รับซื้อ และสามารถนำรายได้ส่งต่อเป็นต้นทุนในการจัดหาอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการผลิตขาเทียม และสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
การจัดกิจกรรมในวันนี้ จึงเป็นการผนึกกำลังที่สำคัญของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ในการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมการนำขยะกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล สร้างกระแสความตื่นตัวในสังคม นำไปสู่การสร้างสังคมแห่งการรีไซเคิลร่วมกัน ทุกคนสามารถเริ่มได้ที่ตนเอง โดยหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ผู้ผลิตสินค้า ผู้บริโภค ผู้รีไซเคิล ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด รวมทั้งขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคน ในฐานะผู้บริโภค ช่วยกันรวบรวมกระป๋องเครื่องดื่มอลูมิเนียมที่ใช้แล้ว มาเปลี่ยนเป็นมูลค่าสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีต่อไป นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย