เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ต.ค.65 กลุ่มสมาชิกสภาอบจ.จ.ราชบุรี ซึ่งนำโดยนายไชยา เอี่ยมสะอาด ส.อบจ. เขตอำเภอดำเนินสะดวก นายสุทธิเดช ริมธีระกุล ส.อบจ.อ.โพธาราม นายมนตรี ใช่รุ่งเรือง ส.อบจ.อ.จอมบึง และ นายนิธิวรรธน์ ศิริจรรยาพงศ์ ส.อบจ.อ.บ้านคา ได้นำชาวบ้านในแต่ละอำเภอรวม 10 อำเภอ ของจ.ราชบุรี กว่า 200 คน เดินทางมาที่หน้าศาลากลาง จ.ราชบุรี พร้อมกับมีป้ายข้อความ ไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะ ท่อก๊าซนรก # save ชาวเมืองราชบุรี ลุงนายกจ๋า ช่วยหนูด้วย โรงไฟฟ้าฆ่าพวกเราชาวราชบุรี หยุดสร้างโรงไฟฟ้า ท่อก๊าซมลพิษ บนคราบน้ำตาชาวราชบุรี ฯ ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการที่จะยื่นหนังสือกับนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการ จ.ราชบุรี ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี ขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างแนวท่อก๊าซและการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหินกอง เพาเว่อร์เป็นกรณีเร่งด่วน
โดยมีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1. แจ้งผู้ประกอบการก่อสร้างโรงไฟฟ้า หยุดประกอบการจนกว่าจะหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหาได้ 2. แจ้งผู้ประกอบการหยุดการวางท่อส่งแก๊สที่จะวางในพื้นที่จ.ราชบุรี จนกว่าจะหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหาได้ 3.กำหนดให้มีการจัดประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผูผลิตไฟฟ้า ภาคประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหา และ 4.ให้พิจารณาทบทวนและแก้ไขหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินช่วยเหลือชุมชนของกองทุนพัฒนาชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ที่ได้รับผลกระทบ โดยพิจารณาช่วยเหลือในภาพรวมทั้งจังหวัดแทนการพิจารณาจัดสรรกองทุนของโรงไฟฟ้า เพียงในรัศมี 5 กม. ซึ่งการมายื่นหนังสือในครั้งนี้แกนนำพร้อมกับชาวบ้านยืนยันว่าจะต้องยื่นหนังสือกับนายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี คนเดียวเท่านั้น เนื่องจากนายอุดม เพชรคุต รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี จะมารับหนังสือแทน เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดติดราชการ แต่ชาวบ้านไม่ยอมและจะขอรอจนกว่าผู้ว่าฯ จะลงมารับหนังสือ
โดยนายไชยา ได้ให้ข้อมูลว่า วันนี้ประชาชนชาวราชบุรีได้รับความเดือดร้อนเพราะโรงไฟฟ้าสร้างความเดือดร้อนมามากยิ่งในปัจจุบันได้มีการต่อท่อก๊าซมาจากพม่า เข้ามาอ.จอมบึง อ.โพธาราม และอำเภอเมือง ซึ่งชาวบ้านไม่พอใจเนื่องจากเป็นการทำลายธรรมชาติ และโรงไฟฟ้าได้สร้างมลภาวะให้กับชาวราชบุรีซึ่งชาวราชบุรีไม่ได้รับประโยชน์ และไม่ให้ความสำคัญกับคนราชบุรี ไม่มีการประชาคมหรือประชาวิจารณ์ จนประชาชนต้องมาร้องเรียนถึงผู้ว่าฯให้ส่งหนังสือถึง นายกรัฐมนตรีเพื่อหาทางแก้ไขและเยียวยาให้กับชาวราชบุรีทั้งจังหวัดไม่ใช่แค่จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะไม่มีการให้ก่อสร้างต่อ
ต่อมาในเวลา 12.00 น. นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ลงมารับหนังสือร้องเรียนจากแกนนำ พร้อมทั้งกล่าวว่าจะเร่งดำเนินการส่งเรื่องนี้ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งเตรียมประสานตัวแทนบริษัทที่ก่อสร้าง ,โรงไฟฟ้าและชาวบ้าน มาเจรจาต่อรองพูดคุยกันเพื่อหาแนวทางโดยมี ผู้ว่าฯเป็นตัวกลางในการประสาน สร้างความพอใจให้กับทางประชาชนและผู้นำที่มาร่วมคัดค้านการก่อสร้างก่อนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป
