คนขับรถตู้โดยสารหลับในเสยท้ายหกล้อตู้ทึบเจ็บ 9 ราย กลางสี่แยกนาน้อยพนมสารคาม พบผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นเด็กและวัยรุ่น ขณะคนขับมีอาการทางกระดูกสาหัสติดภายในถูกช่วยเหลือนำส่งต่อไปยัง รพ.ใหญ่ในเมืองแปดริ้ว เบื้องต้นรับผู้โดยสารมาจาก จ.สมุทรปราการ มุ่งหน้าไป จ.บุรีรัมย์

วันที่ 19 ต.ค.65 เวลา 01.30 น. พ.ต.ต.มานิตย์ บุญแต่ง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารพุ่งชนท้ายรถยนต์บรรทุกขนาดหกล้อแบบตู้ทึบ ที่บริเวณกลางสี่แยกสัญญาณไฟนาน้อย (แยกเบส) บนถนนสาย 331 (กบินทร์บุรี-สัตหีบ) พื้นที่ ม.7 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย จึงรีบรุดเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคอมมิวเตอร์คันสีฟ้า ติดตัวอักษรไว้ที่ข้างประตูรถ “รถรับจ้างไม่ประจำทาง” หมายเลขทะเบียน 30-0191 บุรีรัมย์ พุ่งชนเข้าที่ด้านท้ายของรถยนต์บรรทุก 6 ล้อแบบตู้ทึบขนส่งสินค้าออนไลน์ของบริษัทขนส่งเอกชนอย่างแรงจนด้านหน้าของตัวรถพังยับเยินในช่องทางด้านซ้ายสุดจากทั้งหมด 2 ช่องจราจรในทิศทางขาออกมุ่งตรงไปยังพื้นที่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม ทำให้มีผู้โดยสารที่นั่งมาในรถ ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นวัยรุ่นและเด็กจำนวน 8 รายได้รับบาดเจ็บ

โดยได้รับการช่วยเหลือจากอาสาสมัครกู้ภัยพนมสารคาม ลำเลียงนำส่งไปยัง รพ.พนมสารคาม ก่อนหน้าหมดแล้ว ส่วนภายในรถยังคงเหลือคนขับติดอยู่ภายในที่นั่งคนขับ 1 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายจรูญ อายุ 50 ปี อยู่ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มีอาการบาดเจ็บทางกระดูกที่บริเวณขา ทางอาสาสมัครกู้ภัยฯ จึงได้ใช้เครื่องตัดถ่างตัดซากตัวรถช่วยเหลือนำออกมา ก่อนนำส่งไปยัง รพ.พนมสารคาม และมีการส่งต่อไปยัง รพ.พุทธโสธร ในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา

ส่วนรถยนต์บรรทุกยี่ห้ออีซูซุ คันสีขาวหมายเลขทะเบียน 72-4935 สระบุรี ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยที่ด้านท้ายรถ มีนายเอ้ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 30 ปี เป็นคนขับ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 01.00 น. ตนเองกำลังจอดหยุดรถเพื่อรอสัญญาณไฟอยู่ที่บริเวณช่องทางด้านซ้าย ต่อมาได้มีรถตู้พุ่งเข้ามาชนท้ายอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อว่าน่าจะหลับใน โดยรถคันของตนนั้นขนส่งพัสดุสินค้าออนไลน์มาจาก จ.ระยอง เพื่อนำส่งไปยัง จ.นครราชสีมา

ขณะเดียวกันมีผู้โดยสารบางรายที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยให้ข้อมูลว่า รถตู้คันเกิดเหตุนั้นได้รับผู้โดยสารมาจากในเขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อมุ่งหน้านำไปส่งยังที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้โดยสารบนรถนั้นไม่ได้มาด้วยกัน และไม่รู้จักกัน ส่วนสาเหตุที่คนขับต้องมาใช้เส้นทางสายนี้ เนื่องจากมีการเข้าไปแวะรับผู้โดยสารบางรายในเขต อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ด้วย