วันที่ 18 ต.ค.65 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 จากการสุ่มตรวจจำแนกสายพันธุ์ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตรวจตัวอย่าง 128 ราย เป็น BA.4/BA.5 จำนวน 126 ราย BA.2 จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ จากข้อมูลที่มีการรายงานในระบบ GISAID ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีการรายงานผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์พบในไทย ผู้ติดเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 จำนวน 19 ราย สายพันธุ์ย่อย BN.1 จำนวน 10 ราย BF.7 จำนวน 2 ราย และสายพันธุ์ย่อย XBB จำนวน 2 ราย โดยทั้งหมดพบอาการไม่รุนแรง

สำหรับข้อมูลผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อย XBB จำนวน 2 รายที่พบ รายที่ 1 เป็นหญิงชาวต่างชาติอายุ 60 ปี มีประวัติเดินทางมาจากฮ่องกง เข้ามารับการตรวจเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ด้วยอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก รายที่ 2 เป็นหญิงชาวไทยอายุ 49 ปี มีประวัติเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ เข้ารับการตรวจวันที่ 27 ก.ย.มีอาการไอคัดจมูก ซึ่งข้อมูลสำหรับสายพันธุ์ย่อย XBB ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ BA.2.4.1 และ BA.2.75 ที่พบมีการกลายพันธุ์ในหลายตำแหน่ง จึงทำให้สามารถแพร่เชื้อได้ไว และมีความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกันด้วย

ส่วนข้อมูลของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อย BF.7 จำนวน 2 ราย รายที่ 1 เป็นชายไทยอายุ 16 ปี ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครเข้ารับการตรวจรักษาในช่วงเดือนสิงหาคม ด้วยอาการไอเล็กน้อย รายที่ 2 เป็นหญิงไทยอายุ 62 ปี เป็นบุคลากรทางการแพทย์ เข้ารับการตรวจเมื่อวันที่ 7 ก.ย. อาการป่วยไม่รุนแรง ซึ่งข้อมูลสำหรับสายพันธุ์ย่อย BF.7 พบมีการระบาดมากในประเทศจีน เบลเยียม เยอรมนี สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

"จากข้อมูลของการเฝ้าระวังยังสรุปได้อีกว่า สายพันธุ์ BA.5 เป็นสายพันธุ์หลักที่มีการแพร่ระบาดในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าการกลายพันธุ์ของโอไมครอนยังเกิดขึ้นมาก และมีการกลายพันธุ์ในหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งที่สามารถจับกับเซลล์ของร่างกายคน ซึ่งจะทำให้หลายสายพันธุ์ สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้ และมีความสามารถในการแพร่ระบาดได้เร็ว ส่วนความรุนแรงของอาการป่วยนั้น ยังคงเป็นเช่นเดิมของสายพันธุ์โอไมครอน"อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว

ด้านนพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรณีการติดตามข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย XBB ที่ถูกตรวจคัดกรองเจอในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งมีประวัติเดินทางมาจากประเทศไทย ในเบื้องต้นพบว่าทั้ง 3 ราย เป็นชาวฮ่องกง มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศไทย อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลว่าเกิดการติดเชื้อในระหว่างที่อยู่ประเทศไทย หรือระหว่างการเดินทางกลับฮ่องกง

“สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในประเทศไทย ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 2,234 รายเฉลี่ยวันละ 319 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 371 ราย เสียชีวิต 53 ราย ในรอบสัปดาห์ ซึ่งดูจากแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ยกเว้น แถบยุโรปที่เป็นช่วงฤดูหนาว พบสัดส่วนผู้ติดเชื้อ สูงขึ้นต่อเนื่อง จึงขอแนะประชาชนในช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว หากมีอาการป่วยโรคกลุ่มโรคทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ มีน้ำมูก ไอเจ็บคอ ขอให้คัดกรองด้วยตนเองเบื้องต้นด้วยการตรวจ ATK ก่อน และให้ปฏิบัติตนตามมาตรการ รวมถึงการเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามระยะเวลาที่กรมควบคุมโรคกำหนด”ผอ.กองระบาดวิทยา กล่าว