รวบรวมข้อมูลสำคัญ ทั้งจุดวิกฤตพื้นที่น้ำท่วม จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ จุดเสี่ยงไฟไหม้ จุดเสี่ยงสารเคมีรั่วไหล รวมถึงกำลังพิจารณาเรื่องจุดเสี่ยงอาชญากรรม ช่วยประชาชนรับทราบข้อมูลสำคัญ รวมทั้งจะขยายสถานพยาบาลปฐมภูมิให้ครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น ข่วยลดความหนาแน่นในโรงพยาบาลหลัก
ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปีนี้ว่า กทม.กำลังออกแบบจัดทำแอพพลิเคชั่นของตนเอง ใช้ชื่อว่า แอพหมอกทม.ซึ่งรวบรวมข้อมูลสำคัญไว้ ได้แก่ จุดวิกฤตพื้นที่น้ำท่วม จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ จุดเสี่ยงไฟไหม้ จุดเสี่ยงสารเคมีรั่วไหล รวมถึงกำลังพิจารณาเรื่องจุดเสี่ยงอาชญากรรมเพิ่มเข้าไป เพราะปัจจุบันกทม.สามารถดึงข้อมูลจากกล้องวงจรปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเลี่ยงเส้นทางได้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปช่วยเหลือจะได้ทราบเส้นทางเข้าออกในพื้นที่ที่มีกลุ่มเปราะบาง รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เพราะที่ผ่านมา กทม.ใช้เงินในระบบในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นหลากหลาย จนบางครั้งเกิดความซ้ำซ้อน และเกิดความสับสนในการเลือกใช้งานของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสถานพยาบาลปฐมภูมิเพิ่มมากขึ้น จาก 2 โครงการนำร่องที่เริ่มทดลองมาแล้ว ได้แก่ 1.ดุสิตโมเดล ให้บริการครอบคลุมพื้นที่เขตบางพลัด เขตบางซื่อ เขตพระนคร และ 2.ราชพิพัฒน์โมเดล ให้บริการครอบคลุมพื้นที่ เขตตลิ่งชัน เขตบางแค เขตภาษีเจริญ เขตทวีวัฒนา เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ง่ายขึ้นผ่านการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น หากรู้สึกป่วยสามารถโทรหาแพทย์ในพื้นที่เพื่อแจ้งอาการได้โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล หลังจากแพทย์วิเคราะห์อาการเบื้องต้นแล้ว จะแนะนำให้ผู้ป่วยไปที่ร้านขายยาใกล้บ้านซึ่งเป็นร้านที่มีการจดทะเบียนกับสปสช. กว่า 700 ร้านโดยเภสัชกรในร้านขายยาดังกล่าวจะเป็นผู้ติดตามอาการ หากพบว่า 3 วันอาการยังไม่ดีขึ้น เภสัชกรจะโทรปรึกษาแพทย์เพื่อชี้ขาดว่าจะประสานการส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ศูนย์บริการสาธารณสุขกทม.หรือโรงพยาบาล ก็จะช่วยลดความหนาแน่นในโรงพยาบาล ลดภาระของโรงพยาบาลหลักลงได้ เพราะมีร้านขายยาเป็นภาคีดูแลร่วมกัน