วันที่ 17 ตุลาคม 2565 เวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ ภวจ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ  พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้จำนวน 285 คน จับกุมผู้จำหน่าย 25 คน ผู้ค้า 6 คน ผู้ครอบครอง 14 คน ผู้ครองครองเพื่อเสพ 40 คน จับกุมผู้เสพ 200 คน ของกลาง ยาบ้า 28,600 เม็ด ยาไอซ์ 133.16 กรัม นอกจากนี้ยังยึดทรัพย์สิน ได้อีกหลายรายการ รวมถึงอาวุธปืน อีก 1 กระบอก รวมมูลค่ากว่า 4,958,190 บาท

โดย พล.ต.ต.พัลลภ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ตามนโยบายป้องกันปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากปัจจุบันได้มีผู้เสพยาเสพติด เกิดอาการหลอนและคลุ้มคลั่งก่อเหตุอาละวาดทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด ปฏิบัติการระดมกวาดล้าง และปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้หมดสิ้นไป จึงได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ในสังกัด ระดมกวาดล้างปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่แพร่ระบาดของยาเสพติด ทั้งนี้ได้ขออนุมัติออกหมายจับกุมผู้กระทำผิด เกี่ยวกับยาเสพติดจนสามารถจับกุมผู้เสพได้กว่า 200 คน ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดได้ส่งให้พนักงานสอบสวนแต่ละพื้นที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ยาเสพติดถือเป็นแหล่งเกิดของเหตุอาชญากรรมเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตร่างกาย พ่อฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อ หลานฆ่ายาย เต็มไปหมด โดยเฉพาะ 38 ศพ ที่หนองบัวลำภู ซึ่งเกิดจากยาเสพติด เรามองไปในเรื่องของว่าผู้เสพเป็นต้นตอ เป็นแหล่งกำเนิด ของเหตุการณ์พวกนี้ ทางจังหวัดสมุทรปราการ ก็จะเก็บพวกเสพ พวกที่อันตราย ให้มากที่สุด ถ้าไม่สมัครใจบำบัด เคยมีหลายเคสที่จับแล้วส่งไปบำบัด บำบัดเสร็จส่งตัวกลับบ้าน ตำรวจก็โดนด่าอีกว่าจับแล้วทำไมรีบปล่อย มันเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ที่ถือว่าผู้เสพถือว่าเป็นผู้ป่วย ต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด แต่ว่าอีกแนวทางหนึ่ง เรื่องของงานป้องกัน ก็ต้องป้องกันด้วย

 ทั้งนี้ตนเองได้คุยกับน้องหัวหน้างานสืบสวนที่มีหน้าที่จับ ของทั้งจังหวัดสมุทรปราการ ทุกคนรับนโยบายและเห็นผลเรื่องนี้ด้วย แค่ไม่ถึงอาทิตย์ จับได้มาได้สองร้อยกว่าคน แสดงว่าเราเอาคนเข้าคุกไป200กว่าคนแล้ว ของสมุทรปราการ แต่คนมีเป็นล้าน และเรามีโครงการหนึ่งตำรวจหนึ่งหมู่บ้าน ซึ่งเราทำอยู่ จะให้ตำรวจลงทุกหมู่บ้าน เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ประจำหมู่นั้น ๆ แล้วก็คัดผู้เสพออกมา ผู้เสพที่เกินจะเยียวยา เมาโวยวายทั้งวัน เราก็ต้องจับ แล้วก็ผู้ค้าเราก็จับ ไม่ใช่จับเฉพาะผู้เสพ ซึ่ง เป็นนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กิติประภัสร์ ผบ.ตร. ท่านสั่งการมา

ส่วนตำรวจในจังหวัดสมุทรปราการได้ทำการตรวจทุกโรงพักแล้ว ไม่พบตำรวจเสพยาเลย ถ้าพบว่าตำรวจท่านใดข้องเกี่ยวกับยาเสพติดจะถูกดำเนินคดี และปลดออกจากการเป็นตำรวจ ตนยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือ ออก กับติดคุกแน่นอน