นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ขณะนี้ยังคงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 29 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบสะสม 443,979 ครัวเรือน มีการเปิดศูนย์อพยพใน 13 จังหวัด รวม 202 แห่ง ส่วนสถานบริการได้รับผลกระทบสะสม 221 แห่ง ได้แก่ สสจ. 1 แห่ง รพ. 15 แห่ง สสอ. 8 แห่ง รพ.สต. 192 แห่ง ศสม. 5 แห่ง เปิดให้บริการปกติ 171 แห่ง เปิดบริการบางส่วน 18 แห่ง ปิด/ย้ายจุดบริการ 32 แห่ง ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนเรื่องพายุโซนร้อน เซินกา (SONCA) ที่จะส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักและลมแรงในจังหวัดสกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จึงขอให้สถานบริการในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมป้องกันอาคารสถานที่และครุภัณฑ์ไม่ให้ได้รับผลกระทบ จัดหาพื้นที่ให้บริการสำรอง ในกรณีที่สถานบริการไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เตรียมแผนการอพยพและระบบการส่งต่อผู้ป่วย สำรองยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ รวมถึงเตรียมพร้อมดูแลประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

“สำหรับสถานการณ์ของโรงพยาบาลอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี วันนี้ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงพยาบาล ว่า ระดับน้ำยังทรงตัวสูงกว่าระดับพื้นด้านหน้าโรงพยาบาลประมาณ 30-40 เซนติเมตร ได้ใช้กระสอบทรายกั้นเป็นแนวกำแพงป้องกัน แต่ยังพบปัญหาน้ำผุดใต้ดิน จึงต้องขุดบ่อในจุดที่ต่ำที่สุดเพื่อกักเก็บน้ำและทำการสูบน้ำออกเพื่อรักษาระดับ ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมในโรงพยาบาล ขณะนี้ยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ แต่มีการปรับรูปแบบการให้บริการ โดยจัดตั้งศูนย์บริการบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล (ถนนชัยนาท-สิงห์บุรี 311) ให้บริการทำแผลและจ่ายยาให้กับประชาชนที่เจ็บป่วยเล็กน้อย หากต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ได้จัดรถรับ-ส่งอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งประสานกับรพ.สต.จัดส่งยาให้กับผู้ป่วยโรคเรื้อรังถึงบ้านเพื่อป้องกันการขาดยา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกจากบ้านและมีปัญหาในการเดินทาง”