วันที่ 13 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พ.ต.อ.ยงศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผกก.ตชด.43 กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์และสื่อโทรทัศน์ ที่เผยแพร่คลิป ภาพข่าวรุ่นพี่สั่งรุ่นน้องหัวปักพื้นในร้านอาหารในพื้นที่ จ.สงขลา โดยมีข้อความว่า..#รวมไว้เป็นข้อมูล ได้รับการร้องเรียนพร้อมส่งมอบคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตรี สังกัด ตชด.43 ชุดปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีอาการเมาสุรา โดยได้สั่งรุ่นน้องจบใหม่ยศสิบตรี เอาหัวปักพื้นก่อนเอามือไพล่หลัง กลางร้านอาหารแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.สงขลา พร้อมกับมีการถ่ายคลิปส่งเข้าไลน์กลุ่ม เพื่อโอ้อวดสมาชิกอย่างสนุกสนาน
ล่าสุด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้ตรวจสอบคลิปข่าวดังกล่าวแล้ว จึงขอเรียนชี้แจงว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ชุดปฏิบัติการข่าว กก.ตชด.43 ได้ออกปฏิบัติงานในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจได้เดินทางกลับและได้แวะรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ที่ร้านอาหารในพื้นที่ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นห้องส่วนตัว ลูกค้าทั่วไปไม่สามารถมองเห็นภายในห้องดังกล่าวได้ ในระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารอยู่นั้น รุ่นน้องยศสิบตรีที่เป็นข่าว ได้พูดคุยกับตำรวจรุ่นพี่ที่ร่วมรับประทานอาหารว่าตนเองมีความประสงค์จะเข้ารับการฝึกหลักสูตรต่าง ๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบอกว่าตนเองได้เตรียมความพร้อมของร่างกายมาเป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อตำรวจรุ่นพี่ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ มาแล้ว ได้ยินคำพูดนั้น จึงได้บอกไปว่า “ต้องเตรียมความพร้อมของร่างกาย ตั้งแต่การดึงราว ลุกนั่ง ดันพื้น รวมไปถึงการบริหารกล้ามคอต้องมีความแข็งแรงเพื่อที่จะผ่านการทดสอบร่างกายและได้เข้ารับฝึกอบรม”
ซึ่งเมื่อรุ่นน้อง ได้ยินคำพูดดังกล่าว จึงได้บอกกับรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ว่าตนเองมีความพร้อมและหมั่นฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ และได้สาธิตให้รุ่นพี่ดู และเมื่อเห็นว่าท่าทางยังไม่ถูกต้อง ทางตำรวจรุ่นพี่จึงได้แสดงท่าหัวปักพื้นที่ถูกต้องให้ดูเป็นตัวอย่างโดยไม่ได้มีการสั่งลงโทษรุ่นน้อง ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ยงศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผกก.ตชด.43 ผู้บังคับบัญชาของตำรวจทั้งสองนาย ได้ตรวจสอบและได้สอบถามข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าตัวให้การยอมรับว่าเป็นชายในคลิปดังกล่าวจริง ทั้งนี้ไม่มีเจตนาจะแสดงอำนาจหรือกลั่นแกล้งรุ่นน้องแต่อย่างใด จึงได้กำชับมิให้มีการ กระทำดังกล่าวอีก รวมถึงกำชับให้ระมัดระวังการใช้สื่อโซเชียลอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจกับข่าวดังกล่าว ในส่วนประเด็นอาการคล้ายคนเมา ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริง ก็ต้องดำเนินการด้านวินัยต่อไป และได้กำชับกำลังพลในสังกัดทุกนาย มิให้กระทำผิดกฎหมายและประพฤติตนให้เหมาะสม อยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด