นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการบริหารงานบุคคลตามนโยบายนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มุ่งเป้าลดขั้นตอนปรับการทำงานแก้ปัญหาเมืองรวดเร็วขึ้น ว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) เรามีข้าราชการสามัญ 23,000 คน ข้าราชการครู 16,000 คน ลูกจ้างประจำ 32,000 คน ลูกจ้างชั่วคราว 16,000 คน และจ้างเหมา 10,000 คน รวมทั้งสิ้นประมาณ 100,000 คน โดยมีโครงสร้างระบบบริหารงานสั่งการตามระดับขั้น จากปลัดกทม. รองปลัดกทม. สำนักต่างๆ สำนักงานเขต การสั่งการตามขั้นต้องใช้เวลาร่วมเดือนทำให้ช้า แต่มีส่วนดีคือมีความรัดกุม ในบางเรื่องใช้เวลานาน ยิ่งระหว่างหน่วยงานซึ่ง กทม.มี 17 สำนัก ไม่ทันการ หากใช้วิธีสั่งการผ่านทางโทรศัพท์ แอพพลิเคชันไลน์ ได้ก็จะแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น แต่เรื่องที่ต้องทำตามขั้นก็ไปตามนั้น
ทั้งนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานได้เร็วขึ้น จึงได้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการบริหารงานในเรื่องต่างๆ ตามที่ผู้ว่าฯกทม.ให้นโยบาย โดยมี 4 เกลียว ประกอบด้วย ภาคเอกชน ภาคประชาชน ผู้ประกอบการ และนักวิชาการ ประสานกับ กทม. ร่วมขับเคลื่อนงานด้านต่างๆ กว่า 20 คณะ แต่ละคณะตั้งคณะอนุกรรมการมีภารกิจชัดเจนลงไปดูในแต่ละเรื่อง กำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายแต่ละข้อ ระยะ 6 เดือน 1 ปี โดยมีการประชุมติดตามทุกเดือนมา 4 ครั้งแล้ว
“ ท่านผู้ว่าฯ ให้ผมดูภาพรวม เรื่องการขับเคลื่อนงาน เรื่องคน เรื่องเงิน และสภากทม. ภาพรวมของการบริหารคนเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งสภากทม.ที่ต้องทำงานกับฝ่ายบริหาร ซึ่งมาจากประชาชนเช่นเดียวกัน ก็พยายามปรับแนวทางร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน อีกเรื่องสำคัญมากคือ การขับเคลื่อนงาน ผู้ว่าฯให้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนทุกเรื่อง และปรับวิธีการทำงานจากการสั่งการตามขั้นซึ่งช้าไม่ทันการ นำแอพพลิเคชัน ทราฟฟี่ฟองดูว์มาใช้ ซึ่งสำเร็จแล้ว แก้ไขปัญหาต่างๆให้ประชาชนได้เร็วขึ้น จากที่นำมาใช้กับ กทม. 3-4 เดือนมานี้ มีแจ้งเรื่องเข้ามา 1.6 แสน แก้ไปแล้ว 1 แสนเรื่อง ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศ “ ประธานที่ปรึกษาฯ กล่าว