เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจ.ตราด ได้รับแจ้งว่า มีผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายที่บ้านหลังหนึ่งซอยป่าหมาก 4 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด เยื้องกับสำนักงานประปาตราด จึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองตราดเพื่อให้เข้าไปในพื้นที่ โดยผู้แจ้งระบุว่า ผู้ชายมีปืนด้วย

เมื่อเดินทางไปถึง พ.ต.ท.ประยูร คำพากุล สวป.สภ.เมืองตราด และสายตรวจรวมทั้งสายสืบ ได้สั่งการให้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าบ้าน และแจ้งให้เจ้าของบ้านออกมาพบ โดยไม่เข้าไปในบ้านเกรงว่าจะได้รับอันตรายเมื่อรออยู่ประมาณ 15 นาที มีผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างผอม สูงใส่เสื้อยืดลายพราง นุ่งกางเกงขาสั้นเดินออกมาจากบ้านและมาพบตำรวจที่หน้าประตู 

สายตรวจคนหนึ่งได้แจ้งว่า ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีเหตุทำร้ายร่างกายภายในบ้านจึงขอเข้าไปตรวจค้น ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไม่ได้มีการทำร้าย แต่โกรธภรรยามากเนื่องจากจับได้ว่า ไปพัวพันกับผู้ชายใหม่ ซึ่งตนเองรู้สึกโมโห และได้พูดคุยกับภรรยา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อว่าไม่มีการทำร้ายจึงของเข้าไปในบ้านพร้อมสวป.เมืองตราดที่ติดตามมาร่วมด้วย

โดยการเข้าไปตรวจสอบใช้เวลานานกว่า 30 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ออกมา สุดท้าย พ.ต.ท.ประยูร เดินออกมาแจ้งกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า สามีที่ชื่อ เก่ง ที่ทำงานอยู่ อบจ.ตราดได้จับได้ว่า ภรรยาที่ทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้าน แต่พบว่า ภรรยาไปมีความสัมพันธ์กับชายอื่นและจับได้จึงเกิดบันดาลโทสะ และต่อว่า ดุด่า อย่างรุนแรงต่อหน้าลูกที่อยู่ในบ้าน ลูกจึงโทรไปหาเพื่อนของแม่ ซึ่งได้โทรไปแจ้ง 191 เพื่อให้มาช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบได้ข้อยุติว่า จะทำการหย่ากันและจะทำการแบ่งทรัพย์สินทั้งหมดโดยระหว่างนี้จะให้ผู้หญิงไปอยู่กับญาติก่อน 

สวป.สภ.เมืองตราด กล่าวว่า ส่วนที่มีการแจ้งว่า ผู้ชายมีอาวุธปืนนั้น มีจริง แต่อยู่กับญาติที่เป็นตำรวจ ขณะเดียวกันไม่มีการทำร้ายร่างกายตามที่มีการแจ้ง ทั้งนี้ ยังไม่มีการแจ้งดำเนินคดีใดๆ เพียงแต่ตักเตือนฝ่ายชายให้สงบสติอารมณ์และไม่ให้ทะเลาะหรือทำร้ายอะไรกันอีก ซึ่งทั้งสองฝ่ายยอมยุติกันโดยดี