วันที่ 12 ต.ค. 65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน เกี่ยวกับกรณีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขมาตรการณ์ควบอาวุธปืน ว่า ตนมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้จะเป็นการแก้ปัญหา ได้อย่างถาวรครบถ้วน โดยเฉพาะในเรื่องของการเตรียมการตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ปรับปรุงกฏหมายยาเสพติดทั้งหมด 24 ฉบับ ให้เหลือประมวลยาเสพติดฉบับเดียวที่สมบูรณ์แบบมาก วันนี้ได้บูรณาการในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและทำความเข้าใจในเรื่องของอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปราบปราม การป้องกัน ฟื้นฟูและบูรณาการ ตลอดจนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศลุ่มน้ำโขง ด้วยมาตรการทั้ง 5 มาตรการ ที่ผ่านมาเราถือว่าเป็นบันไดขั้นที่หนึ่งที่ได้ดำเนินการมาในอดีต มีความรัดกุม เข้มแข็ง นายกรัฐมนตรีได้กำชับและที่ประชุมรับรู้ รับทราบ ในอำนาจหน้าที่ตามกฏหมายใหม่ และในส่วนที่เรามีเพิ่มเติมเข้ามา คือมาตรการในการอายัติทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด 

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ในอดีตคำกล่าวที่ว่า ยาเสพติดมีมากมายทุกหมู่บ้าน ในประเทศไทยมี 80,000 กว่าหมู่บ้าน แต่มีการแจ้งผ่านทางช่องทางโทรศัพท์ 1386 เพียง 16,000 สายเท่านั้น ทำไมถึงแจ้งกันน้อยนัก เพราะในบ้านเหล่านั้นไม่ได้เดือดร้อน หรือเดือดร้อนแต่ไม่กล้าแจ้ง เราได้เตรียมการป้องกันไว้หมด หากไม่แจ้งเพราะไม่มียาแสพติดก็ดีไป แต่ถ้าไม่แจ้งเพราะกลัวภัย หรืออันตราย วันนี้เราได้สร้างสิ่งที่ปกปิดผู้ที่แจ้งเบาะแสเข้ามาในลักษณะของบล็อกเชนและได้นำเสนอในที่ประชุมเพื่อให้เห็นพัฒนาการ และคิดว่าจะนำมาใช้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 เดือน เมื่อแจ้งเบาะแสผู้ที่แจ้งจะได้ไม่ต้องระมัดระวังตัวเพราะไม่มีใครรับรู้ ส่วนในเรื่องของสินบน และการนำจับ เราจะตอบกลับไปลักษณะของบล็อกเชนหรือคริปโต 

สำหรับกรณีกระแสข่าวที่ว่ามีพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่อยู่ภายในเรือนจำนั้น ยังไม่มีใครแจ้งให้ผมทราบสักคน ผมอยากทราบจริงๆ ในอดีตการติดตาม ดำเนินการ และการแจ้งเบาะไม่ค่อยดังเพราะไม่เคยยึดทรัพย์สินได้มากมาย ปีนึงได้แค่ 200 - 300 ล้านบาท แต่วันนี้เราประกาศแล้วว่า สามารถยึดอายัติทรัพย์สินในปีงบประมาณนี้ 1 แสนล้าน นี่คือมาตรการที่ 6 ถามว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ เรามีความสมบูรณ์แบบในตัวกฏหมาย มีความตั้งใจของนายกฯที่ได้ให้นโยบายตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ. 63 ในขณะที่เราเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ เราทำมาสุดแล้ว เพียงแต่ยังมีบางส่วนที่ยังทำได้ไม่ทันเวลา เช่นเรื่องการฟื้นฟู ในกฏหมายมีหลักสำคัญอยู่ 2 หลักคือ การปราบปราม ในส่วนนี้กระทรวงยุติธรรมจะเป็นผู้ดูแล ผมและปลัดกระทรวงเป็นประธาน คตส มีหน้าทียึดอายัติทรัพย์สินเพื่อส่งเข้ากองทุน นายกฯกล่าวว่า เงินส่วนนี้ลองนำไปคิดดูว่าจะสามรถนำมาใช้ในส่วนของการฟื้นฟู ที่เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณะสุข ใช้ในการดูแลต่อ และเมื่อเสร็จสิ่นกระบวนการ ผู้ที่ไม่สามารถรักษาได้ ต้องถูกกำกับดูแล และได้มีการนำกำไลEM มาใช้ติดตาม และขออำนาจศาลในการสั่งการ นายสมศักดิ์ กล่าว

ยืนยันอีกครั้งว่ากรณีการมีพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่อยู่ภายในเรือนจำนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะผู้คุมมีสิทธิ์ได้รางวัลสินบนนำจับการยึดทรัพย์สินย้อนหลังได้ หากผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกตรวจสอบ ขอให้กฏหมายขับเคลื่อนเต็มที่และมีการบำบัดฟื้นฟูเต็มรูปแบบ ตอนนี้เกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าว