'อนุทิน' คิกออฟฉีดวัคซีนโควิดเด็กวัย 6 เดือนถึง 4 ปี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี เป็นวันแรก ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี พร้อมให้บริการทั่วประเทศ ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาฉีดได้ตามความสมัครใจ ย้ำวัคซีนมีความจำเป็นในเด็กเล็กช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต การฉีดให้ครบทุกช่วงวัยยิ่งทำให้ประเทศปลอดภัยมากขึ้น

บ่ายวันนี้ (12 ตุลาคม 2565) ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม "เสริมภูมิปฐมวัย ปกป้องภัยโควิด-19" ซึ่งเป็นการเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้ม สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี เป็นวันแรก โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค และ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม


นายอนุทินกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข จัดหาวัคซีนโควิด-19 มาให้บริการแก่คนไทยตั้งแต่ปี 2564 ขณะนี้มีความครอบคลุมมากกว่า 824 ทำให้สามารถควบคุมโรคโควิด-19 จนปรับลดเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังได้ อย่างไรก็ตาม ยังเหลือกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งพบว่ามีอัตราป่วยมากกว่าเด็กโต 1.5 เท่า และป่วยเสียชีวิตมากกว่าเด็กโต 3 เท่า ดังนั้น เมื่อ อย.มีมติเห็นชอบวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ขยายขอบเขตข้อบ่งใช้วัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดง สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน - 4 ปี ประเทศไทยจึงเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ที่จัดหาและนำเข้ามาฉีดให้แก่เด็กกลุ่มนี้ จำนวน 3 ล้านโดส โดยจะส่งในเดือนตุลาคมนี้ 1 ล้านโดส และจะทยอยเข้ามาจนครบในสิ้นปีนี้ เบื้องต้นเข้ามาแล้ว 5 แสนโดส กระจายส่งถึงทุกจังหวัดแล้ว และเริ่มให้บริการวันนี้เป็นวันแรก "เด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี ยังเล็กเกินไปที่จะรู้จักป้องกันตนเอง และเมื่อป่วยจะบอกอาการไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเปราะบาง หากติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรง จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องได้รับภูมิคุ้มกันจากวัคซีน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง


นายอนุทินกล่าวต่อว่า การขยายการฉีดวัคซีนจนถึงเด็กอายุ 6 เดือน สอดคล้องกับนโยบายการบริหารจัดการวัดซีนโควิด-19 ที่มีเป้าหมายเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้ทุกคนบนแผ่นดินไทยเข้าถึงวัคซีนอย่างสะดวกตามความสมัครใจ ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งหากมีการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรทุกช่วงวัยมากขึ้น ประเทศก็จะปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ ขอให้กลุ่มเสี่ยง 608 เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน


สำหรับปี 2566 กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมวางแผนงบประมาณสำหรับจัดหาวัดซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ให้เพียงพอกับประชาชนทุกคนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจะพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเด็กป่วยเพิ่มขึ้น โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน รวมถึงพบเด็กบางรายที่มีภาวะ MIS-C แต่จากการจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กตั้งแต่ช่วงอายุ 12 ปี ลงมาจนถึง 5 ปี ทำให้เด็กไทยได้รับการปกป้อง ลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงจากโรคโควิด-19 ได้เป็นจำนวนมาก และกลับมาเปิดเรียนได้ตามปกติ ดังนั้นเมื่อมีการอนุมัติวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี จึงมีการจัดหาเพื่อนำมาสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กปฐมวัย