เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ต.ค.65 สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปยังอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2564 เป็นวันที่สอง โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิผู้มีผลงานดีเด่นเข้ารับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ จำนวน 3 ราย ได้แก่

1.Professor Patrick SORGELOOS ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะประมง

ศาสตราจารย์ Patrick Sorgeloos ศาสตราจารย์ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คนแรกของมหาวิทยาลัยเกนต์  ราชอาณาจักรเบลเยียม และ ผู้ก่อตั้ง Artemia References Center สร้างคุณูปการต่อวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็น “บิดาแห่งอาร์ทีเมียโลก”

ศาสตราจารย์ Patrick Sorgeloos ทำงานวิจัยการใช้อาร์ทีเมีย หรือ ไรน้ำเค็ม กับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนบทความวิจัยตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติมากกว่า 400 เรื่อง และร่วมแต่งหนังสือและตำรากว่า 14 เล่ม เป็นผู้ที่ทุ่มเทเพื่อสนับสนุนการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศในด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และเป็นสมาชิกของสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโลก คณะกรรมาธิการยุโรป เป็นต้น

ผลงานสำคัญที่สร้างผลกระทบอย่างมากต่อวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ได้แก่ โครงการวิจัยร่วมด้านอาร์ทีเมียในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเบลเยี่ยม จนทำให้มีการจัดตั้ง “ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีอาหารสัตว์น้ำ” ชื่อเดิม “ศูนย์อาร์ทีเมียแห่งชาติ” ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในด้านการเรียน การสอน การวิจัย ของคณะประมง รวมทั้งการให้บริการวิชาการ ฝึกอบรมด้านอาร์ทีเมียแก่กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นผู้ริเริ่มสร้างความร่วมมือและจัดการเรียนการสอนร่วมสองปริญญา ระดับปริญญาเอก สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การประมงและเทคโนโลยี ระหว่างมหาวิทยาลัยเกนต์ ราชอาณาจักรเบลเยียม และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อพัฒนากำลังคนด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต

2.นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ได้รับปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบัญชี  คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล  ผู้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการประกอบวิชาชีพในธุรกิจทางด้านการจัดการและบริหารระบบบัญชี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ได้นำเทคโนโลยีระบบบัญชีที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในองค์กร เปลี่ยนรูปแบบการทำงานที่ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลมาเป็นการทำงานที่ใช้การคิดวิเคราะห์ สนับสนุนและผลักดันการปรับปรุงระบบสารสนเทศ รวมทั้งให้คำแนะนำวางแผนการทำงาน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ จากการบริหารที่รอบคอบฉับไว และใช้ข้อมูลในการตัดสินใจได้ทันท่วงที ทำให้บริษัทฯ มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด และประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ในปี 2559 จากนโยบายการบริหารงานที่โดดเด่น ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจหลายรางวัล อาทิ รางวัล SET Awards 2017 ด้านธุรกรรมทางการเงินดีเด่นในตลาดทุน (Outstanding Deal of the Year) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ นายอัศวิน ยังให้ความสำคัญกับการศึกษา และส่งมอบโอกาสทางการศึกษา ผ่านการมอบทุนการศึกษา โอกาสในการฝึกงานและจ้างงาน ผ่านโครงการความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ รวมถึงปรับปรุงพัฒนาโรงเรียนที่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้น้องๆ นักเรียน และครูได้มีสภาพแวดล้อมทางการเรียนการสอนที่ดีขึ้น

3.นายนิทัศน์ เจริญธรรมรักษา ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพืชไร่  คณะเกษตร กำแพงแสน

นายนิทัศน์ เจริญธรรมรักษา นายกสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย ผู้มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในงานด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว อุทิศแรงกายและทุ่มเทเพื่องานพัฒนางานด้านปรับปรุงพันธุ์และการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษา การวิจัย และส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดี

ภายใต้ชื่อเครื่องหมายการค้า “ เฮียใช้ เมล็ดพันธุ์ข้าว ”นายนิทัศน์ ได้พัฒนารูปแบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโดยการส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วยวิธีการปักดำ และนำเครื่องจักรเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมล็ดพันธุ์ข้าวเฮียใช้ ยังได้ผ่านการรับรองคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวและรับรองระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ ที่กรมการข้าวให้การสนับสนุน  ซึ่งรับรองมาตรฐานโดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ

นายนิทัศน์ เจริญธรรมรักษา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของงานวิจัยด้านปรับปรุงพันธุ์และเทคโนโลยีการผลิตข้าว จึงได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยข้าวเฮียใช้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังในการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้มีศักยภาพในการแข่งขันกับการผลิตข้าวเพื่อส่งออกของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย เพื่อเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในด้านเมล็ดพันธุ์ข้าว  โดยมีกรมการข้าวเป็นผู้สนับสนุน และมีเป้าหมายที่จะผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร 

และผู้ทรงคุณวุฒิ เข้ารับพระราชทานเกียรติบัตร ศาสตราจารย์เกียรติคุณ จำนวน 1 ราย ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณจริงแท้ ศิริพานิช  สาขาวิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก 20 คน ปริญญาโท 105 คน ปริญญาตรี 2,223 รวมทั้งสิ้น 2,348 คน จำนวน 8 คณะ  ได้แก่  คณะประมง  คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์  คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา บัณฑิตวิทยาลัย โครงการสหวิทยาการ คณะเกษตร กำแพงแสน คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน  คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นพรัตน์วชิระ

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486 โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 79  ปัจจุบันได้เปิดสอนวิชาขั้นดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิต ประกาศนียบัตรบัณฑิต และปริญญาบัณฑิต  ในบัณฑิตวิทยาลัย และคณะต่าง ๆ รวมทั้งสิ้นจำนวน 591 หลักสูตร มีนิสิตทุกระดับ  จำนวน 79,302 คน มีอาจารย์ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ อีก 9,884 คน จนถึงปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษาทั้งสิ้น 344,431 คน โดยในปีนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 15,317คน แบ่งเป็นระดับปริญญาเอก 174 คน ปริญญาโท 1,632 คน และปริญญาตรี  13,511 คน  

โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า เมื่อวานนี้ข้าพเจ้า ได้พูดกับบัณฑิตในที่ประชุมนี้ว่า การที่แต่ละคนจะบรรลุถึงความสำเร็จในชีวิตและกิจการงานได้นั้น ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ  ความรับผิดชอบต่อหน้าที่  การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลอื่น และการพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทมากขึ้นทั้งในการศึกษาเล่าเรียนและการทำงาน

ในวันนี้ ใคร่จะกล่าวเพิ่มเติมแก่ท่านทั้งหลายว่า คุณธรรมนั้น เป็นปัจจัยที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบกิจการงานของคนทุกคน ทั้งนี้ เพราะคุณธรรมเป็นพื้นฐานอันดียิ่งของจิตใจ ทำให้คนเรามีใจซื่อตรง ซื่อสัตย์สุจริต มีความเมตตา ปรารถนาดีต่อผู้อื่น มีความเสียสละ ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ที่จะประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีที่เป็นประโยชน์แท้ มีความพากเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา และมีความสำนึกตระหนักในหน้าที่ ที่ตนเองมีต่อชาติบ้านเมือง จึงขอให้บัณฑิตทุกคนพยายามฝึกฝนอบรมตน ให้เป็นผู้มีคุณธรรมประจำใจ แล้วนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ไปใช้ในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพการงาน ให้เป็นไปในทางที่ดีที่เจริญยิ่งๆขึ้นไป