บ้านราษฎร์เจริญ ตำบลอ่างศิลา อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ใกล้น้ำแต่ขาดแคลนน้ำ ปลื้มปีติหลังได้รับพระราชทานความช่วยเหลือ

“ความเดือดร้อนของชาวบ้าน คือเรื่องน้ำที่ขาดแคลน ได้ประชุมชาวบ้านเพื่อว่าจะทำอย่างไรที่ผันน้ำจากแหล่งน้ำขึ้นมาโดยเฉพาะในฤดูแล้งน้ำประปาไม่พอใช้ ทุกคนเห็นด้วยว่าต้องถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือพระองค์ท่านทรงรับโครงการฯ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชลประทานได้ลงมาสำรวจสถานที่ เป็นบุญของชาวบ้านราษฎร์เจริญที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวบ้าน” นายวัน จำปาโท ราษฎรบ้านราษฎร์เจริญ ต.อ่างศิลา อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หนึ่งในผู้ร่วมถวายฎีกาขอพระทานช่วยเหลือโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านราษฎร์เจริญพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี กล่าว

บ้านราษฎร์เจริญ ราษฎรส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ปลูกผัก พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่าแอ่งโคราช (Korat Basin) สูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยประมาณ 68 เมตร (227 ฟุต) ครอบคลุมพื้นที่ 8,300 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ราบสูงลาดเอียงไปทางตะวันออก มีแม่น้ำโขงเป็นแนวกั้นระหว่าง จ.อุบลราชธานีกับประเทศลาว ยาว 187 กิโลเมตร มีแม่น้ำชีไหลมาบรรจบกับแม่น้ำมูลก่อนลงสู่แม่น้ำโขงที่ อ.โขงเจียม ทำให้เกิดกระแสน้ำไหลแรงในช่วงหน้าฝนเกิดร่องน้ำลึกในลำน้ำ ถึงหน้าแล้งระดับน้ำจะลึกกว่าพื้นที่ทำการเกษตรจึงทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำในพื้นที่

“หลังจากนี้ไปจะปลูกข้าวได้ปีละสองครั้ง รายได้ก็จะมากขึ้น รู้สึกปลาบปลื้มดีใจมาก บุญเรามีจริง ทำให้ชาวบ้าน 2 ตำบลได้รับประโยชน์ช่วยให้ปลูกข้าว ปลูกผักได้ทั้งปี เพราะมีน้ำเพียงพอ ต่อจากนี้จะจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำมาดูแลกระจายน้ำแบ่งปันกันให้ทั่วถึง และช่วยกันรักษาแหล่งน้ำให้มีความสมบูรณ์ตลอดเวลา” นายวัน จำปาโท กล่าว

ด้าน นางสาวบุญมี แสงแก้ว ราษฎรบ้านโนนกาหลง ต.โนนกาหลง อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หนึ่งในเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ เผยว่า มีอาชีพทำนาในพื้นที่ 12 ไร่ ปลูกข้าวเหนียวแบบนาดำ ที่ผ่านมานาข้าวมักเสียหายเพราะขาดน้ำ ผลผลิตที่ได้ไม่ดี “ตอนนี้ได้รับโครงการพระราชดำริก็รู้สึกดีใจ ได้คลองชลประทานน้ำพอใช้ ผลผลิตดีขึ้น ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ท่านให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเรา แต่ก่อนไม่มีไฟฟ้า ใช้แต่ตะเกียงเดี๋ยวนี้ไฟฟ้าก็มาถึงแล้วสะดวกมากขึ้น วัวควายที่เลี้ยงมีน้ำกินเพียงพอ ต่อไปจะปลูกพืชผัก และเลี้ยงปลาด้วย

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เพิ่มเกษร รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังโครงการฯ รับฟังสรุปผลการดำเนินงาน พบว่าราษฎรมีความพึงพอใจที่มีระบบการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โอกาสนี้องคมนตรีได้มอบเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานให้แก่ผู้แทนราษฎร และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้อุทิศที่ดิน พร้อมส่งมอบการบริหารจัดการน้ำให้แก่กลุ่มผู้ใช้น้ำ รวมทั้งปล่อยพันธุ์ปลาเพื่อแพร่ขยายพันธุ์ต่อไป

สำหรับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านราษฎร์เจริญพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นั้น เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่ราษฎรบ้านราษฎร์เจริญ ต.อ่างศิลา อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ขอพระราชทานความช่วยเหลือ เนื่องจากขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร ต่อมาคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. สนับสนุนงบประมาณให้กรมชลประทาน ดำเนินการก่อสร้างและแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

ลักษณะโครงการฯ ประกอบด้วย แพสูบน้ำ 2 ชุด และระบบกระจายน้ำ ซึ่งประกอบไปด้วยท่อส่งน้ำและคลองส่งน้ำ รวมความยาวทั้งสิ้นประมาณ 10 กิโลเมตร ส่งผลให้ราษฎรบ้านราษฎร์เจริญและหมู่บ้านใกล้เคียง มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร ได้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี