ดารารุ่นใหญ่ "ปราปต์ปฎล" ยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องคดีแชร์ Forex-3D พร้อมต่อสู้คดีถึงที่สุด โวยดีเอสไอไม่เป็นธรรมแจ้งข้อหาฟอกเงิน ทั้งที่ไม่เคยได้รับหมายเรียกใดๆ พ้อหลังตกเป็นข่าวถูกยกเลิกงานแสดง

ที่ร้านอาหารนาทองเทอเรสบาร์ เมื่อเวลา 10.00 น.  วันที่ 10 ต.ค.65 นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือปราปต์ นักแสดง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน กรณีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D แถลงข่าวกรณีถูกออกหมายเรียกและเรื่องถูกดีเอสไอยึดรถยนต์หรู ว่า  ตอนนี้ได้รับผลกระทบจากข่าวที่นำเสนอไป เพราะสังคมได้ตัดสินและพิพากษาว่าตนกระทำความผิดในฐานฉ้อโกงคดี Forex-3D ส่งผลให้ถูกยกเลิกงานการแสดงหลายงาน ถูกผู้ใหญ่ที่เคารพเรียกคุยให้ไปเคลียร์ตัวเอง ส่งผลต่อรายได้ที่มีจากงานแสดงที่เป็นรายได้ทางเดียวที่มี และต้องมีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในครอบครัว

นายปราปต์ปฎล กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ Forex-3D ไม่เคยลงทุน ไม่เคยรู้จักเลย ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนกับ น.ส.ชนกวนันท์ สีลุน หรือจิ๊กกี๋ อดีตภรรยาของ นายอภิรักษ์ โกฎธิ ตนรู้จักกับจิ๊กกี๋ เมื่อช่วงปี 2558 แต่ไม่ได้สานสัมพันธ์อะไรกัน จากนั้นจิ๊กกี๋ ได้ไปมีครอบครัว ตอนนั้นไม่ได้พูดคุยติดต่ออะไรกัน กระทั่งช่วงกลางปี 2562 กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง และมางานศพของพ่อจิ๊กกี๋ จึงได้สอบถามถึงครอบครัวของจิ๊กกี๋ ทราบว่าเลิกกับสามีคือนายอภิรักษ์ไปแล้ว และได้ให้รูปดู ซึ่งในรูปมีจิ๊กกี๋ นายอภิรักษ์ ดีเจแมนและใบเตย  ซึ่งตอนนั้นคดีแชร์ Forex-3D เริ่มเป็นกระแส ได้สอบถามจิ๊กกี๋ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่รู้เรื่อง และจิ๊กกี๋เป็นผู้บริสุทธิ์

ส่วนรถยนต์แอสตันมาร์ติน เป็นรถยนต์ของจิ๊กกี๋ที่เป็นรถยนต์ส่วนตัว ขับมาหาตนเองตลอดที่เริ่มกลับมาคบหากัน ตนไม่เคยไปสอบถามว่าเอาเงินจากไหนมาซื้อ หรือได้มาจากการกระทำผิดหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของจิ๊กกี๋ กระทั่งช่วงปี 2563 จิ๊กกี๋ไม่สบายหนัก ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ระหว่างนั้นมีเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสอง ได้โทรศัพท์ติดต่อจิ๊กกี๋บอกว่า ได้พาเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เข้าไปยึดทรัพย์ โดยอ้างว่า เพื่อนสาวประเภทสองเป็น 1 ในผู้เสียหายที่ถูกอดีตสามีฉ้อโกงไป ขณะนั้นจิ๊กกี๋เป็นกังวลว่ารถยนต์จะถูกยึดไป จึงให้ตนขับรถยนต์หรูดังกล่าวไปไว้ที่บ้านเพื่อนของปราปต์ที่จังหวัดราชบุรี

นายปราปต์ปฎล กล่าวอีกว่า หลังจากที่จิ๊กกี๋ไม่สบาย ได้ให้ไปพักฟื้นที่ห้องพักของตัวเอง ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาค้นห้องพักของตน ทั้งที่ไม่ได้มีการแสดงหมายค้นอะไร ส่วนห้องพักของจิ๊กกี๋ที่ถูกตรวจค้นและถูกยึดของไปก่อนหน้านี้ ตนและจิ๊กกี๋ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว เพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม  สร้างความสงสัยว่า เข้าไปยึดทั้งที่เจ้าของห้องไม่ทราบได้อย่างไร ตนได้ดำเนินคดี ตาม ป.อาญา มาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนดังกล่าวด้วย

สำหรับคดีฟอกเงินที่ถูกออกหมายเรียกตามที่ดีเอสไอได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปว่ามีการออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง ขอยืนยันว่า ไม่เคยได้รับหมายเรียกเลย และไม่เคยได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเลย กระทั่งมีสื่อไปลงชื่อและนามสกุล จึงทำให้ทราบว่าเป็นตนเอง

ด้าน น.ส.กนกรัตน์ นิ่มสมุทร ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ตั้งข้อสังเกตว่า ดีเอสไอแจ้งข้อหาฟอกเงินกับนายปราปต์ปฎลได้อย่างไร ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้มีการไปผัวพันกับทรัพย์ใดๆ ของจิ๊กกี๋เลย เพียงแค่ขับรถยนต์หรูไปจอดไว้ที่บ้านเพื่อนของปราปต์ที่จ.ราชบุรีเท่านั้น

ด้าน นายศิริชัย ปิยะพิเพษชฐกุล ทนายความดูแลด้านคดีให้นายปราปต์ปฎล กล่าวว่า ดีเอสไอได้แจ้งข้อหาโดยไม่เป็นธรรมกับปราปต์ และการที่ออกมาชี้แจงสามารถที่จะอธิบายรายละเอียดได้ทุกอย่างด้วยเอกสาร พร้อมต้องการให้ดีเอสไอออกมาชี้แจงการกล่าวหากับปราปต์ว่าเกี่ยวข้องกับForex3D ได้อย่างไร โดยทางตนและปราปต์ต้องเข้าชี้แจงเพิ่มเติมกับทางดีเอสไอ