สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกมายอมรับว่า มีความผิดพลาดเรื่องการจัดทำแผนลดภาษี ที่ตนประกาศไปเมื่อสัปดาห์ก่อน จนส่งผลให้สกุลเงินปอนด์ของอังกฤษ อ่อนค่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงทำให้ตลาดเงินเกิดความปั่นป่วน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีทรัสส์ ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลของตนควรจะปูพื้นฐานให้ดีกว่านี้ ก่อนที่จะประกาศดำเนินแผนการลดภาษี ซึ่งตนได้เรียนรู้จากความผิดพลาดดังกล่าว และจะทำให้ดีขึ้นในการจัดทำแผนการต่างๆ ครั้งต่อๆ ไป

ผู้นำหญิงแห่งอังกฤษ ยังได้วิงวอนต่อประชาชนว่า อยากให้ทราบว่า ตนเข้าใจถึงความกังวลของประชาชน และว่า แผนการลดภาษีดังกล่าวไม่ใช่การตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี แต่เป็นการตัดสินใจของนายควาซี ควาร์เตง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีทรัสส์ ได้ประกาศที่จะปรับลดภาษีให้ได้ 4.5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไปอีกครั้ง ซึ่งแผนการดังกล่าว ประกอบด้วยการยกเลิกเพดานภาษีรายได้ร้อยละ 45 แก่ผู้มีรายได้เกิน 1.5 แสนปอนด์ต่อปี แล้วใช้อัตราสูงสุดที่ร้อยละ 40 ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2023 (พ.ศ. 2566) เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมีแผนการที่จะเพิ่มการกู้ยืมของรัฐเพื่อนำไปใช้ด้านการลดค่าพลังงานในครัวเรือนและภาคธุรกิจในฤดูหนาวปีนี้ด้วย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดานักเศรษฐศาสตร์ว่า เป็นมาตรการที่มีความเสี่ยงอย่างไร้เหตุผล และเป็นการประกาศท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ตามการแจ้งเตือนจากธนาคารกลางของประเทศ