คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” แม้จะโดนคดีเกือบจะถูกปลดออกจากตำแหน่งมาแล้วถึงสองครั้งสองคราในรัฐสภา แม้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้ง แม้ว่าธุรกิจหลักของเขาทางด้านอสังหาริมทรัพย์จะยังมีคดีในเรื่องความไม่โปร่งใส  และถึงแม้ว่าเขามีแนวโน้มว่าจะถูกดำเนินคดีอาญาอย่างน้อยหนึ่งคดีขึ้นไปก็ตาม แต่กลับปรากฏว่า เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่ในแวดวงการเมือง โดยมิได้หลบหน้าหนีหายไปไหน

และถึงแม้ว่าขณะนี้เขาจะยังมีคดีติดตัวมากถึง 9 คดีก็ตาม แต่กลับปรากฏว่า เขาก็มิได้นำเงินส่วนตัวมาใช้ในการต่อสู้คดีเลยแต่อย่างใด เนื่องจากมีฐานเสียงแฟนคลับผู้หลงใหลและศรัทธาในตัวเขาควักกระเป๋าบริจาคเม็ดเงินแบบไหลมาเทมา จนทำให้เขาสามารถหาทนายความชื่อเสียงโด่งดังมาช่วยเหลือทางด้านคดีได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย!!!

และจากการสำรวจของสำนักหยั่งเสียง Quinnipiac ซึ่งเป็นโพลที่ได้รับความน่าเชื่อถือชั้นเยี่ยมเกรดเอเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2022 ที่ผ่านมาว่า นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ก้าวขาเข้าสู่แวดวงการเมืองเมื่อกลางปีค.ศ. 2015 เรื่อยมาจนถึงวาระที่ต้องออกจากตำแหน่งนั้น ดูเหมือนว่าคะแนนนิยมของเขาไม่เคยสูงเกินกว่า 44% เลย

และยังเป็นที่น่าสังเกตอีกด้วยเช่นกันว่าในช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงดำรงอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เขาต้องสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และในวุฒิสภา ที่ดูเหมือนว่าตรงกันข้ามกับ “ประธานาธิบดีโจ ไบเดน” ที่สามารถคุมเสียงข้างมากได้ทั้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และ ทำเนียบขาว!!!

นอกเหนือจากนั้นขณะที่จะมีการเลือกตั้งกลางเทอม หรือการทำงานบริหารสหรัฐฯครบสองปีในสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในวันที่ 8 พฤศจิกายน ปรากฏให้เห็นอีกด้วยว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ยังคงมีอิทธิพลทางการเมือง ที่เขาสามารถจะเป็นผู้คัดสรรเลือกหาตัวบุคคลรวมทั้งหาเม็ดเงินที่จะใช้ในการรณรงค์หาเสียงให้แก่บรรดานักการเมืองในค่ายพรรครีพับลิกัน เพื่อใช้ลงแข่งขันทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในวุฒิสภา

ทั้งนี้ยังถือได้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์มีพรสวรรค์พิเศษในการกล่าวปราศรัยด้วยการใช้วาทศิลป์แบบเรียบง่าย แต่โดนใจตรงจุดจนทำให้มีผู้สนับสนุนเขาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวคำปราศรัยตอบรับการที่ได้เข้าไปเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันในที่ประชุมเมื่อปีค.ศ. 2020 ว่า “ไม่มีใครในสหรัฐอเมริกาจะปลอดภัย หากอยู่ภายใต้การนำของโจ ไบเดน” ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากบรรดาฐานเสียงของเขา

โดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อไปอีกว่า “บรรดาชาวต่างชาติที่อพยพเข้าสู่สหรัฐฯแบบผิดกฏหมายและไม่มีเอกสารใดๆ ก็ถือว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงปลอดภัยของสหรัฐฯด้วยเช่นกัน” ก็เป็นข้อความที่ได้รับการตอบรับจากฐานเสียงของเขาอย่างล้นหลามเช่นเคย

เท่ากับว่าขณะที่เขาลงแข่งขันในตำแหน่งประธานาธิบดี เขาได้ป้อนและหยิบยื่นความหวาดกลัวและความวิตกกังวล รวมถึงความแตกแยกให้แก่คนอเมริกันไปในตัวนั่นเอง!!!

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ มิใช่บุคคลธรรมดาๆ เพราะเขามีคุณลักษณะพิเศษ เป็นนักคิดนอกกรอบที่เขาเคยใช้ทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นสื่อที่มีอิทธิพลสูงมาเป็นอาวุธสำคัญในการประชาสัมพันธ์ตนเองที่มีผู้ติดตามมากมายกว่าเก้าสิบล้านคน

เนื้อหาสาระในทวิตเตอร์แต่ละข้อความที่มีความยาวเพียง 280 อักษร แต่แสนจะมีอิทธิพล โดยแต่ละวันเขาจะมีทีมสต๊าฟที่มีความเชี่ยวชาญคอยเขียนข้อความลงโพสต์ให้

และเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเข้าสู่ทำเนียบขาว ปรากฏว่าเขาได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวแสดงความคิดเห็นแบบเป็นสาธารณะ โดยแต่ละวันบรรดาสื่อทั้งในสหรัฐฯและทั่วโลกต่างก็อาศัยข้อมูลในทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีทรัมป์มาใช้ในการนำเสนอข่าว

นอกจากสื่อมวลชนจะเข้าไปอ่านข้อความในทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีทรัมป์แต่ละวันแล้ว ก็ยังมีคนทั่วไปเข้าไปอ่านและติดตามกิจกรรมของเขาอย่างต่อเนื่อง จนป๊อปปูล่าได้รับความนิยมสูงมากทีเดียว!!!

ในปีแรกที่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่ทำเนียบขาวนั้น ปรากฏว่าทวิตเตอร์ของเขาที่เขียนด้วยข้อความเรียบง่ายตรงไปตรงมา แต่ทรงพลังจนบางครั้งทำให้ทวิตเตอร์ของเขาล่ม เนื่องจากมีจำนวนของผู้สนับสนุนเป็นฐานเสียงทางการเมืองเข้าไปอ่านเป็นจำนวนมาก!!!

และจากการวิจัยของสำนัก Pew Research เมื่อปีค.ศ. 2017 เปิดเผยออกมาว่า บัญชีทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีทรัมป์ 16% เชื่อมโยงเผยแพร่และโฆษณานโยบายของเขาไปในตัวอย่างมีอิทธิพลและมีพลังสูง และยังถือเป็นการส่งต่อข้อความต่างๆตรงไปยังบรรดาสื่อมวลชนไม่ว่าจะเป็น ช่อง Fox News, CNN, ABC หรือสถานโทรทัศน์ NBC โดยสถานีโทรทัศน์เหล่านี้ได้นำเอาข้อความที่โพสต์ทางทวิตเตอร์ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ไปวิเคราะห์และเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 6 มกราคม ปีค.ศ.2021 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุการณ์ก่อการจลาจลที่มีฝูงชนจำนวนมากบุกรุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินในรัฐสภานั้น ปรากฏว่ามีผู้เข้าไปเยี่ยมชมในทวิตเตอร์ของประธาฯธิบดีทรัมป์มากถึง 88,936,841 คนทั่วโลก!!!

และเนื่องจากบริษัททวิตเตอร์เล็งเห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์มีส่วนอยู่เบื้องหลังในการยุยงส่งเสริมให้ก่อการจลาจลสร้างความรุนแรง จึงถูกสั่งระงับบัญชีทวิตเตอร์แถมด้วยบัญชีใน Facebook และ YouTube ของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างถาวรอีกด้วย

เมื่อบัญชีส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์ถูกสั่งปิดไป เขาก็มิได้หวั่นเกรงหันไปเปิดสื่อใหม่ส่วนตัวของเขา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยใช้ชื่อว่า “Truth Social” และถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีผู้เข้าไปใช้ราวๆ 20 ล้านคนก็ตาม แต่กลับไม่บูมและมีอิทธิพลเทียบเท่ากับทวิตเตอร์!!!

ส่วนการจู่โจมของหน่วยเอฟบีไอ เพื่อยึดเอกสารลับกว่า 11,000 ชิ้นที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ นำไปเก็บไว้ ณ คฤหาสน์ของเขา ในรัฐฟลอริด้า ได้สร้างความโกรธแค้นแก่เขาเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้เขาได้จัดตั้งทีมทนายความเข้าไปดำเนินการฟ้องร้อง และถึงแม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ในศาลอุทธรณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ดูเหมือนว่าเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ และแน่นอนว่าคดีนี้อาจจะมีการต่อสู้กันในศาลสูงสุด โดยผู้พิพากษาของศาลสูงสุดส่วนใหญ่เป็นฝ่ายของประธานาธิบดีทรัมป์

ส่วนความหวังของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะลงสมัครแข่งขันเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีปีค.ศ. 2024 ก็ยังมีอยู่ ดังจะเห็นได้จากการหยั่งเสียงของสำนักโพล Morning Consult เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2022 ที่เปิดเผยออกมาว่า สมาชิกของค่ายพรรครีพับลิกัน และค่ายกลุ่มอิสระถึง 56% ต่างต้องการจะให้ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน เพื่อลงแข่งขันเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024

ส่วนสำนักหยั่งเสียง PBS/NPR ที่ทำร่วมกับ Marist Poll เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2022 นี้ได้เปิดเผยว่า คนอเมริกันหกในสิบคนไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลงสมัครเลือกตั้งในปีค.ศ. 2024

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นดูเหมือนว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังไม่หลบหน้าหนีหายออกจากแวดวงการเมืองของสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด เพราะเรายังคงเห็นเขาวนเวียนอยู่แบบยังมีพาวเวอร์มีพลังและยังคงมีฐานเสียงสนับสนุนอยู่มิใช่น้อย และหากจะเปรียบเทียบเขาในโลกของภาพยนตร์แล้วละก็ เขาก็คงจะเป็นดั่ง “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์”พระเอกในเรื่อง “คนเหล็ก The Terminator”ที่ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตายสักที แถมยังมีวลีฮิตติดปากว่า “I’ll Be Back” “ฉันจะกลับมาใหม่”อีกด้วยละครับ