ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่เมื่อวันที่ 29 กันยายนว่า จากกรณีที่มี นักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาลัยเขตแพร่ เฉลิมพระเกียรติ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ สาขาเกษตรป่าไม้ ปีที่ 1 อายุ 18 ปี มีอาการป่วยหนัก และไม่ได้รับการดูและจากรุ่นพี่ในสาขาจนต้องออกมาหาแพทย์ที่โรงพยาบาลร้องกวาง และ แจ้งไปยังผู้ปกครอง ให้เดินทางมารับกลับภูมิลำเนา ยืนยันว่าจะลาออก เหตุดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดร.ศุกรี อยู่สุข คณบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้แพร่เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องดังกล่าว เพิ่งจะทราบรายละเอียดเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีสื่อโทรมาสอบถามว่ามีผู้ปกครองร้องทุกข์เรื่องนี้และได้ตรวจสอบ ซึ่งทาง เราไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ ในเรื่องรายละเอียด การป่วยทราบว่า น้องนักศึกษาที่ป่วยดังกล่าวนั้น มีอาการป่วย แต่จะรอให้พี่รหัส พาไปรักษา ตามกฎแล้วเมื่อน้องมีปัญหา ก็จะสอบถามหรือปรึกษาพี่รหัส ของตัวเอง แต่ถ้าติดขัดหรือฉุกเฉิน น้องก็สามารถที่จะแจ้งอาจารย์ หรือ พี่ๆ ประจำหอใน ที่น้องพักอยู่ได้ ทางมหาวิทยาลัย มีการติดเบอร์โทร การประสานงานของบุคลากรไว้อยู่ ในเรืองดังกล่าว คือน้องจะรอแต่พี่รหัส ซึ่งพี่รหัส อาจจะยังติดธุระหรือยังมาไม่ทันที่น้องจะเข้ารับการรักษา น้องจึงตัดสินใจไปรักษาเอง
เมื่อมีการร้องเรียนมาเราก็ต้องตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ขอยืนยันว่า ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้แพร่เราประกาศชัดเจน ไม่มีมีการรับน้อง ไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่ละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ ไม่มีหลักสูตรไหนทำ แต่สิ่งที่นักศึกษาสาขาป่าไม้ ทำ นั่นอาจจะเป็นการทำกิจกรรมนอกเวลา เลยเป็นเรื่องเป็นราว ดังกล่าวขึ้น
ซึ่งทางมหาวิทยาลัย ในส่วนของการที่น้องนักศึกษาคนดังกล่าว จะขอลาออกจากมหาวิทยาลัยนั้น ก็เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถไปทำอะไรได้ แต่ได้สอบถามความรู้สึกน้องแล้ว น้องตอบว่ารับได้เรียนที่นี่ดีหมด แต่รับไม่ได้กับระบบกฎ ในส่วนของข่าวที่ออกไปบอกว่า คณบดีไปแจ้งน้องให้ทบทวนดีๆ กับการลาออก ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ เพียงแต่เราเสียดายว่า น้องได้เข้าเรียนแล้ว 4 เดือน แต่ถ้าจะลาออก ก็สามารถทำได้ตามความประสงค์ ในส่วนสาขาอื่นไม่เคยมีปัญหา อาจจะมีการเข้าใจผิดเป็นประเด็นว่า มหาวิทยาลัยไม่ให้ออก ซึ่งไม่เป็นความจริง
“ในส่วนของการนำเสนอข่าวว่า รุ่นพี่มีกฎห้ามไปรักษาพยาบาลเมื่อมีการเจ็บป่วย ซึ่งไม่เป็นความจริง และในความเป็นจริงคนเจ็บป่วยจะไม่ให้รักษาได้อย่างไร เพียงแต่ว่า รุ่นพี่ที่เป็นพี่รหัสติดภารกิจ อยู่ข้างนอก อาจจะไปไม่ทันที่น้องจะไปรักษาพยาบาล รุ่นพี่บอกให้รอ อยู่ระหว่างการเดินทางและอาจจะไปไม่ทัน เลยตีความไปว่ามหาวิทยาลัยไม่ดูแล นี่คือจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว” ดร.ศุกรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองของ นักศึกษาคนดังกล่าว ได้เดินทางมารับบุตรกลับ ไปยังภูมิลำเนา คือจังหวัดนครสวรรค์ และ ลาออกจากมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว