วันที่ 28 ก.ย.65 นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ รับทราบข้อสั่งการจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้กำชับไปยังทุกจังหวัดในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์พายุโนรูซึ่งเคลื่อนเข้ามาส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในระหว่างวันที่ 28-30 ก.ย.นี้ ที่ห้องประชุมสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัด

โดย พล.อ.อนุพงษ์ สั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ติดตามสถานการณ์พายุโนรู รวมทั้งประเมินสถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ กำชับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระดับ ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัยเพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ให้จัดชุดปฏิบัติการจากฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ มูลนิธิ อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา เร่งเข้าคลี่คลายสถานการณ์ หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงในพื้นที่ ให้ผู้อำนวยการสั่งการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้โดยทันที

พร้อมกันนี้ให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายอาสาสมัครประชาชนจิตอาสา เข้าดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบ สำหรับจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยและเกิดขึ้นต่อเนื่องให้จัดตั้งศูนย์พักพิงและวางแผนบริหารจัดการ เพื่อรองรับการอพยพของประชาชนอย่างเป็นระบบ 

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กำชับให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ติดตามสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิดและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้รับทราบสถานการณ์เป็นระยะ นอกจากนี้ ให้จัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ พร้อมที่จะเข้าดำเนินการคลี่คลายสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุการณ์สาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ 

โดย นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลพบว่าใน 8 อำเภอ มีพื้นที่เสี่ยงประสบภัยจำนวน 472 หมู่บ้าน/ชุมชน ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมสถานที่ที่จะใช้เป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยไว้ แล้วจำนวน 139 แห่งกระจายอยู่ในทุกตำบล มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชน

ส่วนกรณีพายุโนรูที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เมื่อดูตามทิศทางของพายุ พบว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ จ.ประจวบฯ มากนัก แต่ทางจังหวัดก็ได้เฝ้าระวังสถานการณ์ เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือเครื่องจักรในการช่วยเหลือประชาชน มีการขุดลอกสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อให้การระบายน้ำลงสู่ทะเลเป็นไปโดยสะดวก ส่วนอ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 9 แห่งในจังหวัดขณะนี้พบว่ามีปริมาณน้ำรวมกันกว่า 280 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 56 ของระดับกักเก็บทั้งหมด ส่วนอ่างเก็บน้ำปราณบุรี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด ขณะนี้มีปริมาณน้ำกว่า 220 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุอ่าง 396 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก