วันที่ 28 ก.ย.65  เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดของ "โทนี่" นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวใน CARE ClubHouse ระบุว่า...

“...ค่าเงินบาทอ่อนทำให้การส่งออกดี แต่ก็เกิดเงินเฟ้อ คือ สินค้าในประเทศแพงขึ้นด้วย เป็นหน้าที่ของแบงก์ชาติที่ต้องดูแล ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้จะมีแบงก์ชาติไปทำไม...”

จริงๆแล้ว เงื่อนไขของแบงก์ชาติวันนี้ คือ ปล่อยให้ค่าเงินเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ปัญหาก่อนหน้า คือ ค่าเงินต่ำกว่าหรือสูงกว่าเป้าก็ไม่ว่าอะไร ธปท.บอกจะปรับเข้าเป้าเอง ซึ่งอันนี้ผมยอมรับว่า เขาไม่อยากขึ้นดอกเบี้ยหรอก แต่สถานการณ์เป็นแบบนี้ สมมติเงินบาทอ่อนค่าเรื่อยๆ ลึกๆ แล้ว เราต้องมีความไม่สมดุลในเศรษฐกิจ

อย่างเช่น ตอนนี้เราขาดดุลบัญชีสะพัดต่อเนื่อง 6 ไตรมาส เวลาขาดมากๆ ต้องยอมให้ค่าเงินบาทอ่อน เพื่อแก้ไข แต่มีปัญหาว่าถ้าคุณปล่อยให้อ่อนมากๆ จะทำให้เงินเฟ้อขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม สินค้าที่ส่งออกขึ้นราคา รวมถึงสินค้าที่เรากินด้วย เวลาค่าเงินบาทอ่อน ภายในประเทศเงินเฟ้อก็ต้องขึ้น ดูเลยอีก 2-3 เดือนเงินเฟ้อไม่ลง เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของแบงก์ชาติที่ต้องดูแล ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้จะมีแบงก์ชาติไม่ทำไม เพราะรัฐบาลปรับเองไม่ได้

ระยะยาว ค่าเงินบาทกับเงินเฟ้อจะต้องไปด้วยกัน เงินบาทจะอ่อนปีละ 2-3% เพื่อให้กำลังซื้อเท่าเทียม ถ้าแบงก์ชาติตั้งเป้า 2% ค่าเงินบาทกับดอลล์ต้องมีเสถียรภาพเท่ากัน แต่สถานการณ์ซับซ้อนมาก หลักๆเวลาเราบอกมีเงินเฟ้อแล้วขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ปัญหาจะหนักมากขึ้น ค่าเงินบาทอ่อนไป เงินเฟ้อขึ้น ถ้าดีต่อผู้ส่งออก แต่ไม่มีสินค้าบริโภคในประเทศ แต่เวลามีเงินเฟ้อ สินค้าน้อยจนขาดแคลน มาบอกวันนี้บาทอ่อนไม่เป็นไร อยากบอกว่าเงินเฟ้อจะรุนแรงขึ้น

#ศุภวุฒิสายเชื้อ

#คิดเคลื่อนไทย