พายุโนรู จ่อถล่ม 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง อุตุฯเตือนปชช.รับมือ ส่วน กทม.ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังพายุโนรูถล่มกรุง กรมชลฯ ยันอ่างเก็บน้ำ 76 แห่งพื้นที่ภาคอีสานใต้มั่นคงแข็งแรง ขณะที่16 จังหวัด ยังระทม! จมบาดาล บิ๊กเด่น สั่งตร.ทุกพื้นที่ประสาน ทหาร-ฝ่ายปค.-ทางหลวง ช่วยเหลือปชช.
เมื่อวันที่ 27 ก.ย.65 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์พายุโนรูผ่านเพจเฟซบุ๊กถึงเส้นทางพายุว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.ย.นี้ พายุโนรูจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน เคลื่อนผ่าน สปป.ลาว และเข้าสู่ด้านตะวันออก ของภาคอีสาน บริเวณตอนบนของจ.อุบลราชธานีและ จ.อำนาจเจริญและในช่วงเย็นของวันที่ 29 ก.ย.65 จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ จากนั้นจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคอีสานตอนกลาง ภาคกลาง และภาคเหนือ ซึ่งอาจทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณภาคอีสานตอนล่าง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์
ด้าน นายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 กรมชลประทาน กล่าวยืนยันว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง จำนวน 76 แห่ง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน ในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานใต้ มีความมั่นคงแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้ รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง(กอปภ.ก.)รายงานผลกระทบ จากร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ ภาค เหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับ พลันน้ำ ป่าไหลหลากในพื้นที่ 16 จังหวัด รวม 60 อำเภอ 120 ตำบล 325 หมู่บ้าน ภาพรวมปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ด้าน นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า ศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์พายุไต้ ฝุ่น"โนรู" กรุงเทพมหานคร ได้ติดตามสถานการณ์พายุโนรู โดย กทม.ได้เปิดศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น "โนรู" เพื่อแจ้งเตือนประชาชน และประสานงานพร้อมแก้ไขเหตุการณ์เร่งด่วน โดยได้ให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อม และจัดสรรสรรพกำลังประจำจุดรวมพลของแต่ละกลุ่มเขต โดยเฉพาะในจุดเสี่ยงที่มีน้ำท่วมขังเป็นประจำ เพื่อแก้ไขและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ส่วน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ผบ.ตร. มีความห่วงใยในสถานการณ์ ดังกล่าว จึงสั่งกำชับให้ทุกหน่วย ทั้ง บช.น., ภ.1-9 และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง ป้องกันภัยจังหวัด และกรมทางหลวง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย