หนีไม่รอด!!หนุ่มโคราชสิ้นคิดฉกทองกลางห้างฯ อ้างหาเงินปลดหนี้เลี้ยงลูก

วันที่ 27 กันยายน 2565  เวลา 13.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง อ.เมือง นครราชสีมา พ.ต.อ.นาวิน  ธีระวิทย์ ผกก.สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง ฯ พร้อม พ.ต.ท.นราพงษ์  เตือนขุนทด รอง ผกก.สสฯ , พ.ต.ท.สุชาติ ซ้อนพุดซา สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมกับ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 ,กก.สส.ภจว.นม,สภ.จอหอ ได้ควบคุมตัว นายชยุต อายุ 24 ปี อยู่ต.ในเมือง อ.เมือง นครราชสีมา ผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาสอบสวน

จากนั้นนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองในห้างดัง สาขาสามแยกปักธงชัย อ.เมือง นครราชสีมา พร้อมของกลางหลายรายการประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน เลขทะเบียน 1 กด 8999 นครราชสีมา เสื้อแขนยาวสีกรมท่า กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว หมวกแก๊ปสีน้ำเงิน หมวกนิรภัย เสื้อกันฝนสีแดง เป็นชุดที่ใช้ลงมือก่อเหตุ

โดย พ.ต.อ.นาวิน ผกก.สภ.โพธิ์กลาง กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวสร้อยข้อมือน้ำหนัก 3 บาท ภายในร้านทองห้างดัง สาขาสามแยกปักธงชัย โดยออกอุบายทำทีขอดูทองแกล้งคุยโทรศัพท์ จากนั้นก็วิ่งไป ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนทำการขยายผลจนทราบว่า รถจักรยานยนต์คันที่คนร้ายใช้ลงมือก่อเหตุ มีผู้ครอบครองเป็นชื่อของหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นแฟนสาวของนายชยุต เอามาใช้ขับขี่มาทำงาน กระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ ขณะกำลังทำงานอยู่ภายในโรงงานแห่งหนึ่งเขตพื้นที่ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

จากสอบสวนนายชยุต อ้างว่า เนื่องจากเป็นหนี้สิน ต้องส่งเงินให้ลูกให้เมียใช้ และไม่มีเงินใช้จ่ายส่วนตัว หาทางออกไม่ได้ ลงมือก่อเหตุคนเดียว สำหรับแฟนสาว เป็นเจ้าของรถ ไม่รู้เรื่องหรือมีส่วนร่วมด้วย หลังก่อเหตุแล้วได้นำสร้อยข้อมือดังกล่าวไปขายที่ร้านทองภายในห้างดังสาขาหัวทะเลได้เงินสดจำนวน 82,000 บาท ใช้จ่ายไปเกือบหมดแล้ว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในข้อหา วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม