เพจมูลนิธิวอชด็อคไทยแลนด์ ได้โพสต์ ลูกสาวแจ้งความพ่อขโมยเอาแมวไปปล่อยทิ้งจนถูกรถชนตาย #ยัน! #ไม่ไกล่เกลี่ย เป็นเรื่องเศร้าในครอบครัวที่ลูกสาวยืนยันต้องการให้พ่อรับโทษในผลกรรมที่ทำไว้กับสัตว์ เหตุขโมยแมวสุดรักไปปล่อยทิ้ง พบอีกทีกลายเป็นศพเพราะถูกรถชนตาย
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า มูลนิธิวอชด็อคไทยแลนด์ รับแจ้งเรื่องร้องเรียน ขอให้ช่วยเหลือเรื่องดำเนินคดีกับพ่อของตน สาเหตุขโมยแมวชื่อ ฮาชิ อายุ เจ็ดเดือน ของลูกสาวไปปล่อยทิ้ง ลูกตามหาจนพบเป็นศพถูกรถชนตาย สุดโศกเศร้า ตัดพ้อ คนทำไม่รู้สึกอะไรเลย จึงต้องการให้พ่อได้รับโทษ เกรงไปแจ้งความด้วยตนเอง แล้วตำรวจจะให้ไกล่เกลี่ย ซึ่งตนยอมรับไม่ได้กับการกระทำนี้ โดยลูกสาวยืนยัน อยากให้เป็นบทเรียนของพ่อว่าอย่าทำแบบนี้กับใครอีก ทุกวันนี้ ยังคงร้องไห้ไม่หยุดด้วยความรักและสงสารฮาชิ แมวน้อยผู้อาภัพโดยมีคนแชร์และแสดง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ น้องเม ผูเสียหาย ซึ่งเล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าตนไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ซึ่งออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว ที่ออกมาอยู่คนเดียวเพราะทนพ่อที่มีอารมณ์โมโหร้ายชอบพูดจาหยาบคาย โดยไม่มีการติดต่อหรือพูดคุยกับพ่อเลยแต่แม่ยังพูดคุยอยู่ โดยก่อนที่เกิดเหตุ หนูมีธุระที่ต้องไปกรุงเทพ เลยทิ้งน้อง( แมว ) พร้อมพวกกระบะทรายฝากไว้กับแม่ ส่วนน้องเป็นแมวที่ไม่ขี้เลอะเทอะและเลี้ยงอยู่นอกบ้าน
ส่วนวันเกิดเหตุนั้นที่บ้านจะเลี้ยงกระต่ายไว้ในบ้าน ส่วนแมวจะอยู่นอกบ้าน ซึ่งวันที่เกิดเหตุมีฝนตกฟ้าร้องดัง กระต่ายมันคงตกใจวิ่งไปมาในบ้านทั้งคืน พอเช้ามากระต่ายก็ตาย แล้วก็มาโทษว่าสาเหตุจากแมวของหนู ซึ่งมันจะเป็นเพราะแมวได้ยังไง กระต่ายเลี้ยงอยู่ในบ้าน แมวอยู่ในกรงนอกบ้าน ก็ไม่มีใครบอกให้หนูมาเอาแมวกลับไป
จนผ่านไปหนึ่งวัน แม่บอกให้ดูโลเคชั่นของแมวว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งได้ติดแอร์แท็กไว้ที่คอแมว ก็พบว่าอยู่อีกซอยที่ไม่ใช่ซอยบ้าน ก็สงสัยว่าทำไมน้องไปอยู่ตรงนั้นได้ไง ปกติน้องเป็นแมวที่กลัวคนและก็ไม่เคยวิ่งไปไหนไกล ซึ่งหนูกับแม่ก็วิ่งไปดูตำแหน่งที่จุดสุดท้ายที่แสดง ซึ่งก็ได้ถามพ่อว่าเห็นแมวหรือไม่ พ่อก็บอกไม่เห็น หนูกับแม่ก็หาตรงที่แสดงครั้งสุดท้ายแต่ก็หาไม่เจอ แม่ก็บอกพรุ่งนี้ค่อยมาหาวันนี้มันมืดแล้ว แมวอาจจะหลบพวกหมาอยู่ เพื่อนก็บอกว่าลองโพสต์ตามหาในพัทยาทอล์คเพื่อจะมีคนเห็น
ซึ่งมีคนแท็กในคอมเม้นว่าใช่แมวตัวนี้ไหม ซึ่งก็ใช่แมวหนูจริงๆหนูก็ติดต่อคนโพสต์ไป และได้ถามคนโพสต์ว่าเหตุการณ์เป็นยังไง เขาก็บอกว่าตอนเที่ยงกำลังขายของอยู่ที่ร้านได้ยินหมาเห่า แล้วเขาก็ดูพบว่าหมากำลังไล่กัดแมวอยู่ เขาก็ให้แฟนเขาไปเอาแมวมา แต่ในเวลานั้นมีรถพ่วงข้างมาแล้วบอกว่าเป็นแมวเขา พี่เขาก็สงสัยแต่ก็ให้รถพ่วงข้างไป พี่เขายังบอกรถพ่วงข้างว่าเอาน้องใส่แบบนั้นได้ไงเดียวน้องก็กระโดดออก เขาก็ไม่สนใจขับรถออกไปได้แป๊ปเดียวก็มีเสียงร้อง พี่เขาก็ไปดูพบว่าแมวกระโดดออกจากรถพ่วงข้างแล้วโดนรถชน ตอนนั้นน้องยังไม่ตายแต่หลบไปอยู่ใต้ท้องรถพี่เขาก็ไปเอาน้องออกมา เขาก็วนรถกลับมาแล้วเอาแมวขึ้นรถ ชาวบ้านแถวนั้นก็สงสัยว่าไม่ใช่เจ้าของแมวแน่ๆเพราะไม่มีอาการเสียใจเลย
จนมีพี่คนหนึ่งขี่รถตามก็พบว่าเขาเอาแมวไปโยนทิ้งที่โพงหญ้าที่จุดสุดท้ายที่จีพีเอสแสดง ซึ่งพวกพี่เขาก็พยายามปั้มหัวใจแต่ช่วยไม่ได้ ตอนแรกที่หนูไปดูศพที่คอแมวไม่มีแอร์แท็กแล้ว หนูก็ไม่ทราบหลอกว่ารถพ่วงข้างเป็นของใคร ต่อมาทางแม่ได้โทรมาบอกหนูว่าพ่อรับสารภาพว่าเป็นคนเอาแมวไปปล่อยวัดมันเลยโดนรถชนตาย จากนั้นพ่อยังสารภาพกับน้องว่าพ่อเป็นคนเอาแอร์แท็กไปทิ้งน้ำ
ซึ่งหนูคิดว่าเขาน่าจะเอาแมวไปหาหมอก่อนหรือไม่ก็มาบอกหนูว่าแมวตายแล้วนะ เขาน่าจะมีความคิดความรู้สึกตอนที่หนูถามเห็นแมวไหมเขาตอบว่าไม่เห็น ซึ่งหนูก็ถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้น เขาตอบเพียงว่าเขาแค่จะเอาแมวไปปล่อยวัดแต่แมวมาถูกรถชนตายเขาไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งหนูก็บอกว่าทำไมไม่บอกว่าไม่เลี้ยงหนูก็จะไปเอาแมวมาเองก็เท่านั้น
โดย น.ส.เม กล่าวต่อว่า ส่วนที่หนูไปแจ้งความก็เพราะว่าหนูอยากให้เขารู้ในสิทธิของคนอื่นบ้าง ไม่ใช่เป็นพ่อแม่แล้วทำอะไรก็ได้ ซึ่งหนูไม่ได้ทิ้งแมวให้เขาหนูแค่เอาไปฝากเขาเลี้ยงก่อนเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างในบ้านแม่ก็เป็นคนออก หนูก็พูดคุยกับแม่แม่ก็เข้าใจ แต่กับพ่อเวลาพูดคุยเขาชอบพูดคำหยาบใส่หนู ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางละมุง ซึ่งทางร้อยเวรบอกว่าหนูแจ้งเองไม่ได้ต้องให้ทาวอชด็อคเป็นคนแจ้งคนดำเนินการ