ชาวบ้าน 12 อำเภอเร่งต่อเรือไฟจากภูมิปัญญาชาวบ้านนำกระป๋องรีไซเคิลมาประยุกต์จนสวยงามวิจิตร ตระการตา เตรียมอวดสายตานักท่องเที่ยว คืนออกพรรษาไหลเรือไฟ เน้นสร้างความร่วมแรงร่วมใจ จากพลังศรัทธา สู่การสืบสานประเพณี กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว ช่วงประเพณีออกพรรษา

วันที่ 25 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศเตรียมพร้อมการจัดงานท่องเที่ยว ประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ เริ่มคึกคัก ตลอดแนวริมฝั่งน้ำโขง เลียบถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ได้มีศิลปินเรือไฟ พร้อมตัวแทนแรงงานชาวบ้าน จากทั้ง 12 อำเภอ ต่างนำอุปกรณ์ ไม้ไผ่ โครงเหล็ก ที่ออกแบบเป็นลวดลาย รวมถึงกระป๋องกาแฟรีไซเคิล ตะเกียงไฟโบราณกว่า 20,000 – 30,000 ดวง  มาต่อเติมสร้างสรรค์ เป็นเรือไฟ เพื่อเตรียมไหลโชว์คืนวันออกพรรษา ตามประเพณีโบราณ ที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 60 ปี

โดยในช่วงก่อนออกพรรษา ประมาณ 1 เดือน ชาวบ้าน จะเร่งต่อเติมเรือไฟตามแบบฉบับภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่พัฒนามาจากเรือไฟโบราณที่ทำจาก ต้นกล้วย รวมถึงไม้ไผ่ เป็นเรือขนาดเล็ก เพื่อวางเครื่องเซ่นไหว้บูชา อาหารคาวหวาน  ถวายเป็นพุทธบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามลำน้ำโขง ตามประเพณีความเชื่อ จนมีการพัฒนาเป็นเรือไฟประยุกต์ขนาดใหญ่  ทำโครงสร้างจากไม้ไผ่ ต่อเติมเป็นเรือไฟ ความยาวประมาณ 70 -80 เมตร ความสูงประมาณ 20 -30 เมตร ส่วนลวดลายทำจากเหล็กดัด เพื่อเป็นจุดร้อยเรียงตะเกียงไฟ เป็นแสงสว่างส่องไสว ออกมาเป็นรูปแบบต่างๆ เน้นสัญลักษณ์ความสวยงาม เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี รวมถึงสัญลักษณ์ของ จ.นครพนม และสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ แสดงออกถึงเอกลักษณ์ความโดดเด่นของ ภูมิปัญชาวบ้าน จ.นครพนม ที่เดียวในไทย  เน้นการร่วมแรงร่วมใจจากพลังศรัทธา ไม่เน้นค่าจ้างรางวัล และเป็นการสืบสานประเพณีเป็นหลัก สำหรับในปีนี้กำนัดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 11 ตุลาคม 2565 วันไฮไลน์สำคัญคือวันประกวดไหลเรือไฟ คือ คืนวันที่ 10 ตุลาคม 2565 มีเรือไฟเข้าร่วมประกวดมากถึง 13 ลำ ทุกคืนจะมีเรือไฟโชว์คืนละ 1 ลำ ก่อนถึงวันประกวด

ด้าน นายสรรชัย ธ.น.ตื้อ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม กล่าวว่า ปีนี้ จ.นครพนม ทั้ง 12 อำเภอ รวมถึง อ.ธาตุพนม ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน สรรสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ ขึ้น เพื่อสืบสานประเพณีท่องเที่ยวไหลเรือไฟออกพรรษา ถือว่าจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี หลังได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดมาถึง 2 ปี เช่นเดียวกันปีนี้ ทาง อ.ธาตุพนม จัดสร้างเรือไฟยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยว มากขึ้น

โดยมีการร่วมใจกันสร้างเรือไฟ ความยาวถึง 70 เมตร ความสูงเกือบ 30 เมตร ใช้ไม้ไผ่มากกว่า 4,000 – 5,000 ลำ ประดับยตกแต่งตะเกียงไฟ เกือบ 30,000 ดวง ส่วนดวงไฟที่ประดับตกแต่ง จะพัฒนามาจากตะเกียงไฟที่ทำจากกระป๋องกาแฟรีไซเคิล ทำไส้ตะเกียงจากส้นฝ้าย แบบภูมิปัญยาชาวบ้าน ก่อนที่จะนำไปร้อยรียงตามลดลายเหล็กดัดที่ออกแบบ เป็นรูปต่างๆ ให้มีความสวยงามอลังการ  เน้นสัญลักษณ์ของ จ.นครพนม อาทิ องค์พระธาตุพนม พระธาตุสำคัญต่างๆ รวมถึงประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น

รวมถึงสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์  โดยปีนี้เชื่อมั่นว่า ทุกอำเภอ มีความพร้อมที่จะต่อเติมเรือไฟที่ยิ่งใหญ่สวยงาม อวดสายตาประชาชนนักท่องเที่ยว ที่เฝ้ารอชม ที่สำคัญในการสร้างเรือไฟ ไม่ได้เน้นค่าจ้างแรงงาน ไม่เน้นค่าจ้างรางวัล เพราะแต่ละลำลงทุนสร้างเรือไฟไม่ต่ำกว่า ลำละ 5 แสน ถึง ล้านบาท แต่มีรางวัลประกวดแค่ประมาณ 40,000 – 50,000 บาท เท่านั้น แต่ได้ความภาคภูมิใจ ที่ได้สืบสานประเพณี ในฐานะที่เป็นผู้บริหารท้องถิ่น ที่มีส่วนร่วมกับทั้ง 12 อำเภอ ในการก่อสร้างเรือไฟ ฝากเชิญชวนประชาสัมพันธ์ ประชาชน นักท่องเที่ยว มาเที่ยวชม ดูความสวยงามยิ่งใหญ่ อลังการของเรือไฟ ที่สร้างจากพลังศรัทธาของ ชาว จ.นครพนม เพื่อสืบส่านประเพณี และถวายเป็นพุทธบูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงแม่น้ำโขง ตามประเพณีความเชื่อ ปีนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน