ชาวนครศรีธรรมราช ทยอยเดินทางเข้าทำบุญยังวัดใกล้บ้าน ซึ่งล้วนแต่เป็นวัดที่บรรพบุรุษเคยอุปัฎฐากครั้งยังชีวิต และเมื่อล่วงลับจะเป็นวัดที่นำร่างเข้าไปทำการฌาปนกิจ ซึ่งแต่ละวัดเป็นหมุดหมายของแต่ละครอบครัวที่จะต้องเข้าไปประกอบพิธีทำบุญสารทเดือนสิบประจำปีของชาวนครศรีธรรมราช เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณบรรพุบุรุษผู้ล่วงลับ ในช่วงสารทเดือนสิบระหว่างแรม 1 ค่ำเดือนสิบ ไปจนถึงแรม 15 เดือนสิบ จะเป็นวันที่ผู้เป็นใหญ่ในยมโลกจะปลดปล่อยดวงวิญญาณผู้ล่วงลับเหล่านั้นให้มารับส่วนบุญส่วนกุศลจากลูกหลานที่จะประกอบพิธีเป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ
โดยวันนี้ถือเป็นการยกหมรับใหญ่ คือการนำอาหารคาวหวาน ขนมที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลนี้ 5 อย่าง ผลไม้ และเครื่องประกอบในครัวของชาวใต้ที่ขาดไม่ได้เช่นกะปิ เกลือ พริกแห้ง หอมกระเทียมจัดประกอบขึ้นเป็น “หมรับ” หรือสำรับขนาดใหญ่ แล้วยกเข้าไปยังวัดเพื่อเป็นเสบียงให้กับดวงวิญญาณบรรพบุรุษใช้ในการเดินทางไปสู่สัมปรายภพ บรรยากาศแต่ละวัดเต็มไปด้วยความคึกคักเนื่องจากลูกหลานที่อยู่ต่างถิ่นจะเดินทางกลับภูมิลำเนาร่วมทำบุญกับครอบครัว ถือเป็นกุศโลบายที่สำคัญนับแต่โบราณที่สร้างความสัมพันธ์แน่นแฟ้นในครอบครัวและระลึกถึงบรรพบุรุษครูบาอาจารย์ผู้ล่วงลับที่มีพระคุณ
ส่วนวันพรุ่งนี้จะเป็นวัดสุดท้ายของเทศกาลคือวันแรม 15 ค่ำเดือนสิบจะเป็นวันส่งตายาย นั่นคือการทำบุญใหญ่อีกครั้งเพื่อเป็นการส่งวิญญาณของผู้ล่วงลับ โดยวันนี้จะมีพิธีกรรมที่เรียกว่า “ชิงเปรต” จะมีการวางขนมนมเนยหน้าวัดเพื่อให้มีการแย่งชิงกันอย่างสนุกสนาน หรืออีกนัยยะหนึ่งเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้วิญยาณบาปที่ไม่สามารถเข้าไปรับส่วนกุศลในวัดได้