เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 กันยายน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาตัวนายจิระพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม หลังถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน รุมทำร้ายด้วยอาวุธมีด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลถูกฟันที่ลำคอ แขนทั้งสองข้าง เหตุเกิดที่ ซอยเพิ่มสิน 20 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา

นายเอกภพ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้บาดเจ็บทราบว่าอาการยังสาหัส เมื่อคืนที่ผ่านมาได้พาตัวคนเจ็บไปหาหมอ เย็บแผลถึง 3 ครั้ง เนื่องจากเลือดไม่หยุดไหล และขณะนี้ยังเดินไม่ได้เพราะได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง โดยสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องความขัดแย้งของสองสถาบันอาชีวศึกษา คือ สถาบันย่านคลองสี่ อ.ลำลูกกา และ สถาบันย่านบางเขน ทั้งนี้ฝั่งของคนเจ็บได้ดรอปเรียนไว้ เพื่อมาช่วยที่บ้านทำงาน ส่วนคู่กรณีคาดว่าเป็นการมาเจอกันเฉพาะหน้า เลยมีการสอบถามถึงสถาบันศึกษา จนคู่กรณีเห็นว่าคนเจ็บมีพวงกุญแจของสถาบัน จึงอยากได้ และเกิดเหตุทำร้ายร่างกายขึ้นในที่สุด

นายเอกภพ เผยว่า ขณะนี้ได้ประสาน พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม และ พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย รอง ผกก.สส.สน.สายไหม ไว้แล้ว และทราบว่าทางฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ ในเบื้องต้นจะแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนจะเป็นข้อหา พยายามฆ่าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน

นายจิระพงศ์ หรือ เจล อายุ 18 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 22 กันยายน ขณะนั้นเป็นเวลาที่ตนกับเพื่อนและรุ่นน้องรวมสามคนขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสามเพื่อจะกลับมาบ้านพักย่านนิมิตใหม่ โดยเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้พบกับกลุ่มผู้ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์สวนกัน ซึ่งตอนแรกตนไม่ได้เห็นว่ากำลังตกเป็นเป้า เพราะทางคู่กรณีไม่ได้มีการแสดงท่าทีหรือมีการด่าทอกันแต่อย่างใด ก่อนที่จะมาเห็นว่าคู่กรณีได้มีการกลับรถแล้วขี่มาตัดหน้าเพื่อบล็อกตนเข้าที่ ขอบทางด้านซ้าย และมีรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งขี่ประกบที่ด้านขวาพร้อมกับบอกให้กลุ่มตนลงจากรถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะมีหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ถามว่าตนเรียนที่ไหน แต่ตนเองบอกว่าไม่ได้เรียนเพราะได้พักการเรียนเพื่อมาทำงาน แต่ที่บริเวณหูเข็มขัดของตนมีพวงกุญแจที่มีตราสถาบันห้อยอยู่ เมื่อคู่กรณีเห็นก็ได้มีการบอกให้ส่งเครื่องหมายสถาบันมา ตนไม่ยอมคู่กรณีจึงเริ่มใช้มีดฟันใส่รุ่น ซึ่งน้องที่เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ของตน เป็นเพียงเด็กมัธยมไม่ใช่เด็กอาชีวะ แต่ไม่เข้าเพราะรุ่นน้องสวมใส่เสื้อแขนยาวหนากลุ่มผู้ก่อเหตุจึงหันมาฟันตน ซึ่งครั้งแรกเข้าที่บริเวณลำคอด้านซ้าย จึงเสียหลักล้มลงและพยายามใช้มือขึ้นป้องกันบริเวณศีรษะ เพราะผู้ก่อเหตุพยายามจะฟันและกระทืบที่บริเวณศีรษะทำให้นิ้วมือข้างขวาและศอกทั้งสองข้างถูกฟัน รวมถึงต้นขาขวาและหน้าแข้งขวา ก็ถูกฝันด้วยเพราะตนเองพยายามถีบคู่กรณีออกไปทำให้ต้นขาขวาได้รับบาดเจ็บหนักที่สุด 

นายจิระพงศ์ เผยอีกว่า ก่อนที่ในเวลาต่อมาไม่นาน จะมีคนตะโกนขึ้นว่าตำรวจมาทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุแยกย้ายกันวิ่งหลบหนีไปและเพื่อนที่มาด้วยกันได้พยุงร่างเข้าไปขอความช่วยเหลือที่บริเวณร้านค้าแถวจุดเกิดเหตุและติดต่อประสานมาทางครอบครัวให้ทราบ ก่อนจะมีการเคลื่อนย้ายตนไปที่โรงพยาบาลซึ่งขณะนั้นยอมรับว่ารู้สึกเจ็บอย่างมากและเสียเลือดค่อนข้างเยอะเพราะตลอดทางที่เดินมีเลือดไหลนองพื้นตลอดและส่วนตัวก็เริ่มรู้สึกหน้ามืด ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาหรือเรื่องทะเลาะผิดใจกับกลุ่มใดมาก่อน ขณะที่เรียนอยู่สองปีที่สถาบันอาชีวะก็ไม่เคยมีปัญหาตีกันกับใคร ก่อนจะมีการพักการเรียนเพราะมาทำงาน จึงไม่ทราบว่าทางคู่กรณีเหตุใดถึงมาก่อเหตุรุนแรงแบบนี้กับตนและรุ่นน้อง ซึ่งรุ่นน้องก็เป็นเพียงเด็กมัธยมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยและยังอยู่ในชุดนักเรียนมัธยม พร้อมยอมรับว่าส่วนตัวก็รู้สึกโกรธที่ กลุ่มผู้ก่อเหตุมาทำร้าย จึงอยากถามว่าเหตุใดต้องมาใช้ความรุนแรงขนาดนี้ทั้งทรีไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเพราะหากรู้จักกัน เหตุใดถึงต้องถามว่าตนเรียนที่สถาบันใด ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ มั่นใจว่าเป็นนักเรียนอาชีวะอย่างแน่นอนเนื่องจากว่าการแต่งกาย เป็นลักษณะการแต่งกายของเด็กอาชีวะ แต่ไม่ทราบว่าสถาบันใดรวมถึงตนก็ไม่เห็นหน้าผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คนเพราะทุกคนสวมใส่หมวกกันน็อคเต็มใบมีชีลบังลมสีดำทำให้ไม่เห็นใบหน้าของผู้ก่อเหตุ

ด้าน นายเอกชัย สืบสาย พ่อของผู้บาดเจ็บ ระบุว่า หลังจากที่ทราบเรื่องก็ได้มีการเดินทางไปที่โรงพยาบาลเมื่อพบเห็นลูกชาย ก็เห็นว่าอยู่ในสภาพบาดเจ็บค่อนข้างสาหัสซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุถือว่ารุนแรงโหดร้าย จงใจเอาชีวิตทั้งที่ลูกชายก็ไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และไม่ได้เป็นเด็กที่ยังเรียนอยู่ในสถาบันอาชีวะ รวมถึง ลูกชายก็ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทแบบนี้มาก่อนขณะที่เรียนอยู่ แม้ว่าลูกชายอาจจะดูเกเรบ้างแต่ก็ไม่เคยทำใครก่อน จึงอยากขอให้ สื่อมวลชนและเพจสายไหมต้องรอดช่วยเร่งรัด ติดตามนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด และอยากให้ทางกลุ่มผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุดูแลบุตรหลานตนเองให้ดีไม่ให้มาก่อเหตุกับบุคคลอื่นอีก และหากรู้ว่าบุตรหลานตนเองเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้อยากให้รีบนำผู้ก่อเหตุมามอบตัวเพื่อรับโทษกับสิ่งที่ทำเร็วที่สุด