ที่ จ.อุดรธานี ญาติช็อคตามหาน้องหายไปนานกว่าครึ่งเดือน ทราบอีกทีกลายเป็นศพ เผยเป็นคนเร่ร่อนแถวนากลาง จ.หนองบัวลำภู ญาติก็งงมาถึงอุดรได้ไง เจ้าหน้าที่ฯ ชี้ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เอาศพไปไม่ได้ ต้องชันสูตรและตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนเพราะสงสัยถูกฆาตกรรม

วันนี้ (23 ก.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณีเพจทันข่าวชาวอุดร ได้โพสต์ประกาศตามหาญาติให้มาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายพนม พรรณผา อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ต.บะยาว อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งศพถูกเก็บไว้ที่ห้องสุขาวดี โรงพยาบาลอุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดรับศพ และมีคนเข้ามาแสดงความเห็นและแชร์ออกไปเป็นวงกว้างแต่ญาติก็ยังไม่มาติดต่อรับศพ จนวันเวลาผ่านไป 15 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังจะนำศพไปเก็บไว้ยังสุสานของมูลนิธิฯ

 

ล่าสุดวันนี้ (23 ก.ย. 65) ที่ โรงพยาบาลอุดรธานี น.ส.อมรัตน์  อายุ 49 ปี ชาวสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งอ้างว่าเป็นญาติผู้เสียชีวิตได้มาติดต่อเพื่อจะขอนำศพออกไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่เจ้าหน้าที่แนะนำให้มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนเนื่องจากผู้เสียชีวิต เสียชีวิตเนื่องจากมีบุคคลอื่นทำให้เสียชีวิต จึงเดินทางมายัง สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อสอบถามเบื้องต้นร้อยเวรประจำวันจึงออกไปตรวจพิสูจน์ศพให้ จากนั้นจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนตามหาคนที่ทำร้าย

 

น.ส.อมรัตน์ฯ เปิดเผยว่า ตนเองกับผู้ตายเป็นพี่น้องกัน โดยพ่อผู้ตายเป็นพ่อบุญธรรมของตนเอง ตนเพิ่งรู้ข่าวว่าน้องตายวานนี้เองโดยน้องอีกคนเอาภาพบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิตมาให้ดู เนื่งอจากมีการแชร์ในเพจโดยถามบอกว่าใช่ญาติเราไหมตนก็จะบอกว่าใช่ จึงเข้ามาติดต่อเพื่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา สำหรับคนที่เสียชีวิตนั้นเป็นคนชอบดื่มสุราชอบและออกจากบ้านมานานแล้วไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ชอบกินเหล้า โดยปล่อยพ่อกับแม่ทิ้งไว้ที่อำเภอวังสามหมอ เคยมาหาตนที่บ้านในอำเภอสุวรรณคูหาขอเงิน 200 บาท จากนั้นก็หายหน้าไปไม่ติดต่อกลับมาอีกเลยจนกระทั่งมารู้ว่าสียชีวิต

 

และจากดูสภาพศพแล้ว พบว่าถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณหน้าผากแล้ะท้ายทอย ส่วนตามตัวร่างกายก็ปกติ และยังงง ผู้ตายเป็นคนเร่ร่อนแถวอ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เดินไกลมาถึงอุดรได้ไง หรือจะมีคนอุ้มาฆ่า  โดยแพทย์วินิจฉัยว่าถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ในส่วนเรื่องคดีความ “การที่น้องถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตส่วนตัวแล้วตนเองก็ติดใจแต่เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่มีความรู้และขอให้เป็นไปตามกฎหมาย”

โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้นำศพไปบำเพ็ญกุศล เพราะอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ศพและหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากนี้เมื่อเจ้าหน้าที่อนุญาตให้นำศพออกมาได้ก็จะเอาไปฌาปนกิจที่อำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู โดยเบื้องต้นตอนนี้ได้ขอความอนุเคราะห์จากมูลนิธิที่สุวรรณภูมิหา ให้ช่วยดำเนินการจัดการเคลื่อนย้ายศพเพราะตนลำบากในเรื่องทุนทรัพย์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นถูกทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 จากนั้นอาสาสมัครมูลนิธิส่งเสริมธรรม ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอุดรธานีเพื่อทำการรักษา โดยระหว่างรักษาผู้เสียชีวิตยังให้การได้และบอกว่าถูกทำร้ายร่างกายมา หลังรับการรักษาต่อมาวันที่ 9 กันยายน 2565 เวลา 13.45 น.ได้เสียชีวิตลง เจ้าหน้าที่จึงนำศพเก็บไว้ที่โรงพยาบาลอุดรธานีเพื่อรอญาติมาติดต่อ ในส่วนการสืบสวนตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป