รวบแล้ว! "2 พี่-น้อง"ขาดทุนกู้เงินซื้อเหรียญบิทคอยน์ เหตุจูงใจวางแผนชิงเงินบริษัท 3.46 ล้าน หลังถูกเบิกออกจากธนาคาร ขณะตำรวจตามจับได้ถึงห้องพักในกรุงเทพฯ หลังก่อเหตุเพียง 2 วัน บอกเงินที่หายส่วนหนึ่งนำไปซื้อไอโฟน 14 จำนวน 2 เครื่องพร้อมของใช้เตรียมหนีต่อ
กรณีชายแต่งชุดไรเดอร์ชิงเงิน 3 ล้านบาท ขณะเสมียนสาวและคนขับรถโรงงานแห่งหนึ่งเบิกจากธนาคารกรุงเทพฯ สาขาบ้านบึง จ.ชลบุรี คนร้ายทำทีเข้ามาหาเรื่องไล่ทำร้าย ก่อนคว้ากระเป๋าใส่เงินกว่า 3 ล้านบาทหลบหนีไป โดยพบเบาะแสและหลักฐานว่า คนร้ายเป็นน้องชายเสมียนสาวที่เบิกเงิน ซึ่งร่วมวางแผนชิงทรัพย์ครั้งนี้ด้วยกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชลบุรี ติดตามจับกุมผู้ต้องหาสองพี่น้องได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยเพชรเกษม 35/1 กรุงเทพมหานคร โดยตำรวจสืบสวนสอบสวนภาค 2 ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมด้วยของกลางเป็นเงินสดที่เหลืออยู่ 3.2 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม 3,460,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.65 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.ย.65 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายจตุพล บุญมีสนม (เอ็ม) อายุ 27 ปี และ น.ส. ประภาภรณ์ บุญมีสนม (บี) อายุ 29 ปี พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 3,263,500 บาท ที่ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์เงินจำนวน 3.46 ล้านบาทจากรถตู้บริษัทแห่งหนึ่งใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หลังพนักงานบริษัทเข้าไปเบิกเงินในธนาคารเพื่อเตรียมนำจ่ายให้กับแรงงาน เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหา คือ นายจตุพล ได้สวมชุดไรเดอร์ เล่นละครทะเลาะกับ น.ส.ประภาภรณ์ ซึ่งเสมียนที่เดินทางเบิกเงินจำนวน 3,460,000 บาท โดยอ้างตนเป็นสามี ก่อนจะลงมือทำร้ายคนขับรถตู้ก่อนหยิบกระป๋าเป้ที่ภายในมี มีเงินสดจำนวนดังกล่าว จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไปทิ้งในป่าอ้อย เขต ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และได้ขับรถกระบะหลบหนีไปจอดไว้ในอู่ประกันแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.เสม็ด จ.ชลบุรี แล้วหลบหนีต่อกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภาค 2 และสืบสวน สภ.บ้านบึง ตามไปจับกุมได้ โดยหลังแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ และจุดที่มีการนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้ง
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุเกิดจากปัญหาหนี้สินจำนวนมากที่เกิดจากการกู้เงินไปลงทุนซื้อเหรียญบิทคอยน์จนขาดทุน และยังบอกอีกว่าหลังชิงเงินไปได้ส่วนหนึ่งได้นำไปซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 จำนวน 2 เครื่องรวมทั้งของใช้ที่จำเป็นเพื่อการหลบหนีแต่สุดท้ายก็ถูกตามจับกุมตัวได้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาหาร่วมก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ