จากกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า  ปลุกกระแสกดดันพรรคการเมืองยกเลิก 'ม.112'

ล่าสุดวันนี้  (18 ก.ย.) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กระบุว่า  ...

ขอบเขตของม.112 คืออะไร

ตอนที่ 2 การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

โดย อัษฎางค์ ยมนาค

ปิยะบุตร กล่าวหาว่า องค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย ใช้ ม.112 เกินขอบเขต

ขอบเขตของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญว่าด้วย “หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์” คืออะไร

……………………………………………………………

ปิยะบุตร กล่าวว่า

หากมาตรา 112 คงอยู่ และองค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายนำมาใช้อย่างขยายความ เกินขอบเขต ลิดรอนเสรีภาพของประชาชน

112 ก็แผลงฤทธิ์ได้มาก

มากจนเกินกว่าตัวอักษรในมาตรา 112 ก็มี

ตีความคำว่า “ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย” จนผิดเพี้ยนไปหมด

มาดูกันว่า ….

องค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายตีความคำว่า “ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย” จนผิดเพี้ยนไปหมด

หรือ ปิยะบุตร คือผู้ที่ผิดเพี้ยนไปเอง

……………………………………………………………

ดูหมิ่น คืออะไร

ดูหมิ่น คือการแสดงกิริยาวาจาสบประมาท, ดูหมิ่นดูแคลน ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น

ด้วยการ…

แสดงกิริยาท่าทาง พูดจา หรือเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร

หมิ่นประมาท คืออะไร

หมิ่นประมาท คือการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม อันประการจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง

ดูหมิ่น หมิ่นประมาท ในทางกฎหมาย ไม่ได้เป็นความผิดเฉพาะการกระทำต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น แต่ความผิดฐานะดูหมิ่น หมิ่นประมาท เป็นความผิดในการกระทำต่อ….

1. การกระทำต่อบุคคลธรรมดา

2. การกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ

อ่านรายละเอียดที่นี่ :

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=220969096921758&id=100070260...

……………………………………………………………

3. การกระทำต่อบุคคลสำคัญระดับชาติ

เป็นข้อหาที่เรียกกันว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น เป็นความผิดที่กระทำต่อผู้ดำรงฐานะสี่อย่างของไทย ได้แก่ พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112)

ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

ความผิดตามมาตรานี้มิได้เพียงกล่าวถึงการดูหมิ่นอย่างเดียว แต่รวมถึง "แสดงความอาฆาตมาดร้าย" ด้วย

แสดงความอาฆาตมาดร้าย คือ อาฆาตแค้น พยาบาทมุ่งจะทำร้ายให้ได้

พยาบาท คือ ผูกใจเจ็บคิดจะแก้แค้น คิดปองร้าย หรือในคำว่า ผูกพยาบาล

การแสดงความอาฆาตมาดร้าย ถ้าได้กระทำโดยการโฆษณา ก็ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน

ความผิดตามกรณีนี้ไม่ว่าจะกระทำภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรไทยก็ต้องรับโทษในราชอาณาจักร เพราะเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 7)

……………………………………………………………

สาเหตุที่การกระทำผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย มีโทษสูงกว่า การกระทำผิดต่อบุคคลธรรมดาและเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะ

สถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่บุคคลธรรมดาและเจ้าหน้าที่รัฐ

แต่พระมหากษัตริย์ เป็นประมุขแห่งรัฐ (ประเทศ)

ย่อมมีความพิเศษกว่าการเป็นบุคคลธรรมดาและเจ้าหน้าที่รัฐ

หากไม่มีพระมหากษัตริย์ ก็ไม่มีรัฐ (ประเทศ)

เพราะพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ (ประเทศ)

รัฐที่ไม่มีประมุข ก็ไม่เป็นรัฐ (ประเทศ)

ความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จึงเท่ากับความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ

……………………………………………………………

มาตรา 7

เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 107 ถึงมาตรา 129

ตัวอย่าง

มาตรา 110 ผู้ใดกระทำการประทุษร้าย หรือผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น หรือผู้ใดกระทำการใดอันเป็นการตระเตรียมเพื่อประทุษร้าย ต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบหกปีถึงยี่สิบปี

มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

มาตรา 116

(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ

(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน

เจ็ดปี

มาตรา 118 ผู้ใดกระทำการใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใดอันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

……………………………………………………………

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า, ความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เท่ากับเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ อีกด้วย

ซึ่งเป็นความผิดที่ร้ายแรงกว่าความผิดต่อบุคคลธรรมดาและต่อเจ้าหน้าที่รัฐ

ความผิดต่อบุคคลธรรมดาและต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่มีผลกระทบต่อรัฐหรือความเป็นรัฐ

แต่ความผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีผลต่อความมั่นคงแห่งรัฐ

แล้วจะให้มีบทลงโทษเท่ากับความผิดต่อบุคคลธรรมดาและต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ได้อย่างไร

……………………………………………………………

ขอยกตัวอย่าง นิว จตุพร

ดูหมิ่น คือการแสดงกิริยาวาจาสบประมาท, ดูหมิ่นดูแคลน ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น ด้วยการแสดงกิริยาท่าทาง พูดจา

คนแต่งชุดไทยในวาระต่างๆ อยู่เสมอมานับร้อยๆ ปี ไม่เคยเป็นคดีความ เนื่องจากการแต่งชุดไทยไม่มีความผิด

แต่การกระทำผิดตามความผิดในมาตรา 112 ของนิวนั้นมีองค์ประกอบชัดเจนหลายประการ เช่น

กริยาอาการ การเดิน การแต่งกาย คนถือร่ม ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดอยู่ในบริบทของการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบสถาบันฯ

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเพลงเพลงราชวัลลภประกอบด้วย พร้อมทั้งมีการตะโกนคำว่า พระราชินี ทรงพระเจริญ

จตุพร แซ่อึง หรือ “นิว” สมาชิกกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก และสมาชิกกลุ่มมวลชนอาสา We Volunteer (Wevo) ถูกดำเนินคดี ม.112 เพราะแต่งชุดและแสดงกริยาล้อเลียนสมเด็จพระราชินี ซึ่งเป็นความผิดจากการแสดงกิริยาท่าทางสบประมาท ดูหมิ่นดูแคลน ดูถูกเหยียดหยาม

……………………………………………………………

มาตรา 112 ถูกองค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายนำมาใช้อย่างขยายความ เกินขอบเขต ลิดรอนเสรีภาพของประชาชน ตรงไหน ?

ข้อเท็จจริงคือ องค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย ทำตามขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัดทุกประการ

คนที่มอง 112 เป็นการปิดปากหรือคุกคามประชาชน

เหตุผลก็คือ คนกลุ่มดังกล่าวตั้งใจบิดเบือน เพื่อบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะมันต้องการล้มลางการปกครอง

ยุทธวิธีตื้นๆ ที่ใช้กันมานานนมของคนกลุ่มที่ต้องการล้มล้างการปกครองในประเทศต่างๆ ตั้งแต่ในอดีต เช่น รัสเซีย ฝรั่งเศส เป็นต้น ก็คือ การสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน

ซึ่งกลวิธีนี้ เขารู้ เราก็รู้

แต่คนที่ไม่รู้คือ ประชาชนที่ขาดความรู้และขวัญอ่อน

บุคคลและกลุ่มบุคคล ที่กล่าวหาว่า องค์กรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายนำมาตรา 112 มาใช้อย่างขยายความ เกินขอบเขต ลิดรอนเสรีภาพของประชาชนนั้นต่างหาก ที่พยายามบิดเบือนและบั่นทอนองค์กรในกระบวนการยุติธรรมและสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง ซึ่งสมควรถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล้ม 112 = ล้มเจ้า = ล้มล้างการปกครอง

 

ขอบคุณ เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค