"บิ๊กตู่" ลุยตรวจน้ำท่วมระยอง พร้อมมอบของช่วยเหลือ ให้กำลังใจผู้ประสบภัย ขอบคุณทุกภาคส่วน กองทัพไม่ทิ้งประชาชน นี่คือประเทศไทยหัวใจเดียวกัน ยืนยันไม่กังวลเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ห่วงความเดือดร้อนประชาชนมากกว่า
วันที่ 16 ก.ย.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และพล.อ.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกกระทรวงกลาโหม
โดยจุดแรก พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางถึงศูนย์ช่วยเหลือ ประชาชนจังหวัดระยอง ที่จัดร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือภาค 1 และศูนย์ช่วยเหลือประชาชนเทศบาลตำบลทับมา อำเภอทับมา จังหวัดระยอง
โดยมีพล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 บรรยายสรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้อำนวยการกรมชลประทานจ.ระยอง บรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทักทายให้กำลังใจเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์และกำลังพลทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ ในศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยพบว่าในคืนวันที่ 13 ก.ย.65 ระดับน้ำและมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลเข้ามาเทศบาลทับมา ไหลเข้าท่วมในตัวเทศบาล กองทัพเรือแก้ปัญหาการเร่งปล่อยน้ำลงน้ำและลำเลียงส่งอาหารรับส่งคนนำ และให้กำลังพลบรรจุถุงทรายเพื่อเข้าไป เตรียมเรือท้องแบนเข้าไปอพยพขนย้ายชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงที่ภายในบ้านขณะนี้น้ำเริ่มเน่าเหม็นจึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำเร่งสูบออกจากพื้นที่ คาดว่า ไม่เกิน 3 วัน จะสามารถระบายน้ำในพื้นที่ให้ลดเป็นปกติได้
พล.อ.ประยุทธ์ ได้สอบถาม แผนการบริหารจัดการคนและแผนการแก้ไขปัญหา ให้สามารถยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์และขอให้ระมัดระวังเรื่องโรคฉี่หนูได้ทราบมาว่า ค่อนข้างร้ายแรง ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาช่วยผู้เดือดร้อนประสบภัยให้ใช้ความตั้งใจและ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และอีก 1 เดือนข้างหน้าจะมีน้ำเหนือไหลเข้ามาสมทบตลอด ทราบว่ารัฐบาลมีแผนบริหารจัดการน้ำน้ำทั้งเหนือตอนบน ตอนกลางและตอนล่าง ขอให้มีความรักความสามัคคีและช่วยเหลือกัน ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนดูแลตัวเองให้ปลอดภัย ดูแลประชาชนให้ปลอดภัยเพื่อให้ประเทศปลอดภัย ถ้าแก้น้ำท่วมไม่ได้โดยตั้งเป้า 10 ล้านคนที่จะเข้ามา พร้อมขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวอย่างชัดเจนไม่มีแต่สถานการณ์น้ำท่วมเพราะไม่ได้ท่วมทั้งหมด
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านหนองมะหาด ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือประชาชนจังหวัดระยองเดิมที่ตั้งคอยช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยให้กับประชาชนตายถูกน้ำท่วมจึงต้องย้ายมาที่ใหม่ เพื่อให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่และประชาชนรวมถึงกำลังพลที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในระหว่างที่มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลทั้งกองทัพเรือกองทัพอากาศและกองทัพบกพร้อมกับอาสาสมัครกู้ภัย จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยในพื้นที่
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตบไหล่พลทหาร พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณที่ช่วยเหลือประชาชน และคราวนี้รู้หรือยังว่าทหารมีไว้ทำไม โดยพลทหารได้ตอบกลับมาว่ามีไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งวันนี้ รักษาราชการแทนนายกก็ได้สั่งกำชับไปแล้วซึ่งวันนี้ตนเองได้มาติดตามการทำงานของพวกเรา ขอขอบคุณทุกคนขอให้มีแต่ความสุข ขอบคุณไปถึงลูกเมียพ่อแม่ของกำลังพลทุกคนด้วย อย่าทำให้ตัวเองไม่ปลอดภัยแต่ก็อย่าทิ้งประชาชน ช่วยกันลดความขัดแย้ง พร้อมขอบคุณทีมสาธารณสุข อสม. และทุกคนนี่คือทีมประเทศไทย ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งไม่ใช่ตน ประเทศไทยหัวใจเดียวกัน ขอทุกคนปรบมือให้กำลังใจซึ่งกันและกันด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า "ซาบซึ้งพวกเราทุกคน" ก่อนจะกอดคอ ถ่ายรูปหมู่ ร่วมกับอาสาสมัครป้องกันบรรเทาสาธารณภัย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นรถ GMC ยกสูงไปยังศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย โรงเรียนเทศบาลทับมา โดยบรรยากาศระหว่างทางได้โบกมือและสวัสดีทักทายประชาชนตลอด 2 ข้างทางพล.อ.ประยุทธ์ ยกมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและชูนิ้วโป้ง ให้กำลังใจ
เมื่อมาถึงศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยโรงเรียนเทศบาลทับมา พล.อ.ประยุทธ์ พบปะเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงกำลังใจสิ่งของแก่ผู้ประสบภัย ให้ ตัวแทนครอบครัวผู้ประสบภัย โดยเดินมีการทักทายเด็ก ผู้สูงวัยที่ป่วยติดเตียงภายในศูนย์ก่อนจะเดินพบปะทุก ครอบครัวที่พักพิงอยู่ในศูนย์ จำนวน 57 ครอบครัวกว่า 100 คน
ระหว่างเดินพบปะพูดคุย สอบถามอาการป่วยของผู้สูงอายุภายในศูนย์พักพิงแล้วพล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้มือตบที่อกซ้าย พร้อม กล่าวว่า “เห็นประชาชนเจ็บปวด แต่นายกฯ และรัฐมนตรีเจ็บปวดกว่า”
จากนั้นพบว่ามีประชาชนนำดอกไม้มามอบให้กับพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้กำลังใจพร้อมเข้ามากอดและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีเรื่องใดที่เป็นห่วงประชาชนเพิ่มเติมอีกหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าได้พูดไปหมดแล้วส่วนมีความกังวลเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะต้องกังวล แต่กังวลในความเดือดร้อนของประชาชนมากกว่าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนจะก้าวขึ้นบนรถยนต์และเปิดกระจกเพื่อจับมือกับชาวบ้านที่มาให้กำลังใจพร้อมตะโกนว่า "ลุงตู่ สู้ๆ" ก่อนเดินทางกลับ