เมื่อวันที่ 16 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบ นายขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ หรือ กระทิง นักแสดงช่อง 3 หลังเข้าข่ายเป็นแม่ข่ายของแชร์ลูกโซ่ Forex 3D
โดย นายปิยณัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังมีกระแสสังคมเกี่ยวกับมีดาราหลายท่านเข้าพัวพันกับคดีดังกล่าว เช่น กระทิง ขุนณรงค์ ซึ่งเมื่อวานที่มีการออกรายการโหนกระแส โดย ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เปิดเผยว่า คดีนี้ยังไม่ได้มีตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหาย หรือดาวน์ไลน์โดยตรงของคุณกระทิงเข้ามาแจ้งความ ซึ่งจริงๆแล้วคดีแชร์ลูกโซ่ เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นอาญาแผ่นดิน ไม่จำเป็นต้องมีผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจสอบ และดำเนินคดีได้
แต่ในเมื่อ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่ายังไม่มีการตรวจสอบเพราะไม่มีผู้เสียหาย ทำให้วันนี้ตนในฐานะประชาชนคนหนึ่งและผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้เสียหายในคดี Forex 3D เข้าร้องดีเอสไอ ให้มีการตรวจสอบกระทิง ว่าเข้าข่ายกระทำความผิดในลักษณะเป็นแม่ข่ายหรือไม่อย่างไร
นายปิยณัฐ กล่าวว่า ตนเองรู้ว่าวงแชร์ล้ม เมื่อเดือนเมษายน ปี2562 จึงได้พาผู้เสียหายกว่าพันคนเข้าแจ้งความกับดีเอสไอ แต่ไม่มีดาราคนไหนต่อสู้เคียงข้างเรายกเว้น ดาราสาวท่านหนึ่ง ถ้าวันนั้นมีดาราที่เสียหายออกมายืนเคียงข้างประชาชน อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินได้มากกว่านี้ นอกจากนี้ยังแก้ข้อสงสัยจากสังคมว่า แท้จริงแล้วดาราคนนั้นเป็นผู้เสียหรือเป็นแม่ทีมกันแน่ สำหรับการตรวจสอบคุณกระทิงหากท้ายที่สุดผลการตรวจสอบไม่พบการกระทำความผิดก็เป็นการตรวจสอบที่เป็นไปตามกระบวนการ แต่ถ้าไม่มีการสอบสวนประเด็นนี้เลยทางทีมทนายความก็มีความเป็นห่วงเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ นอกจากการร้องให้มีการตรวจสอบกระทิงแล้วยังจะขอให้ดีเอสไอดำเนินการสอบเรียก นายศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร หรือโต๋ และนายกัมมัญญ์ กลมแก้ว หรือ บอล มาให้ข้อมูลในฐานะพยานด้วย ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ประสงค์แจ้งความดำเนินกับกระทิงก็ตาม แต่ทางเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการเรียกสอบได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้การที่ตนออกหน้าแทนผู้เสียหายสืบเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้มีหนึ่งในทีมงานซึ่งเป็นแม่ข่ายที่ทำงานร่วมกันตั้งแต่ปี2562 พยายามไปล็อบบี้ผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นคนสนิทกับผู้ใหญ่ในกระทรวงยุติธรรม จะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องคดีและมีความพยายามในการเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหายเป็นการส่วนตัวและพยายามนัดออกไปข้างนอกสถานที่ราชการ ทางด้านผู้เสียหายจึงเกรงกลัวเรื่องความปลอดภัย