วันที่ 15 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายมาร์ค สไนเดอร์ (Mr. Mark Snyder) ผู้ช่วยผู้อำนวยการประจำภูมิภาคตะวันออกไกล สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) แถลงผลการดำเนินงานของหน่วยปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่อากาศยาน หรือ AITF โดยสามารถตรวจยึดพัสดุที่ส่งมาจากสหรัฐอเมริกา ชุกซ่อน คีตามีน 8 กรัม เมทแอมเฟตามีน 9 กรัม เอ็กตาซี 2 กรัม โคเคน 10 กรัม และ เฟนทานิล 4 กรัม ก่อนจับกุมผู้ต้องชายชาวสหรัฐอเมริกา 1 คน และผู้ต้องหาหญิงชาวไทย 1 ราย ได้ที่คอนโดมิเนียม ในพื้นที่เขตราชเทวี ต่อเนื่องที่ โรงแรมแห่งหนึ่ง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากการเอ็กซเรย์พัสดุต้องสงสัย และพบยาเสพติดดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนสืบทราบข้อมูลผู้รับพัสดุ ซึ่งเป็นชายชาวสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยระหว่างช่วง 2562 - 2565 จนชายคนดังกล่าว ได้เข้ารับพัสดุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อตรวจคันจับกุม พร้อมของกลางยาเสพติด ก่อนขยายผลจับกุมหญิงไทยที่ห้องพักอีก 1 คน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบหลักฐาน เพื่อขยายผลเพิ่มเติม และตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินและรายได้ของผู้กระทำผิด เพื่อประกอบการยึดทรัพย์สิน กรณีที่ผู้ต้องหามีรายได้จากการค้ายาเสพติดต่อไป
เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า เฟนทานิล เป็นสารชนิดหนึ่ง ที่นิยมใช้ในคนแถบกลุ่มประเทศยุโรป และสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ จึงเฝ้าระวังการลักลอบนำสารประเภทนี้เป็นพิเศษ กระทั่งสามารถสกัดจับได้ครั้งนี้
สำหรับสารชนิดนี้ ในประเทศไทยจะอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การอาหารและยา หรือ อย. มักจะใช้ในทางการแพทย์ มีผลระงับความเจ็บปวด หรือทำเป็นแผ่นเจล เพื่อรักษาอาการป่วยจากโรคมะเร็ง เป็นต้น
โดยมีฤทธิ์รุนแรงมากกว่า เฮโรอีน และมอร์ฟีน ซึ่งที่ผ่านมา ผู้เสพ มักนำสารชนิดไปผสมกับยาเสพติดประเภทอื่น เพื่อหวังให้ออกฤทธิ์มากขึ้น ซึ่งสารชนิดนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะส่งต่อระบบประสาท ทำให้ร่างกายทำงานได้ช้าลง แต่หากถ้าเสพมากเกินขนาด จะทำให้ระบบหัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้
ขณะที่ กรมศุลกากร ยืนยัน มีการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าสารชนิดนี้ โดยจะพยายามใช้ยุทธวิธีในการตรวจสกัดเพื่อป้องกันสารชนิดนี้ลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย