เมื่อเวลา11.30น. วันที่ 28 กรกฎาคม พ..ต.ต.ธานี มีชัย สว.(สอบสวน) สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าเมอจอร์ซีนีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชนนีขาเข้า แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช ผบก.น.7 อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางพลัด พร้อมประสานรถน้ำสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานคร เข้าสนับสนุน จำนวน 10 คัน ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ เป็นอาคารสูง 4 ชั้น เชื่อมต่อ 2 อาคาร ซึ่งบริเวณชั้น 4 เป็นโรงภาพยนตร์จำนวน 13 โรง แบ่งเป็นอาคารเก่า 7 โรง และอาคารใหม่อีก 6 โรง เจ้าหน้าที่พบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมาก พวยพุ่ง ออกมาจากชั้นที่ 4 (อาคารเก่าฝั่งซ้าย) ทั้งหมด ทำให้ประชาชนรวมทั้งพนักงานของตัวห้างพากันวิ่งหนีตายกันอลหม่าน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงระดมลากสายยางฉีดน้ำ ทำการดับเพลิง แต่ทว่ามีอุปสรรคการดับเพลิง เนื่องจากวัสดุภายในโรงภาพยนตร์เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ไว้ในวงจำกัดก่อนเพลิงสงบ นอกจากนี้พบว่าพบว่าบริเวณอาคารด้านหลังมีรอยร้าวและยุบตัวลงมาเล็กน้อย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ออกมาจากบริเวณดังกล่าว เรื่องจากจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เบื้องต้น ไม่พบผู้บาดเจ็บและเสียชีวืตแต่อย่างใด จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่พบว่ามีรอยร้าวตามผนังของอาคาร โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เป็นห่วงเพียงเจ้าหน้าที่ๆทำงานในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบเบื้องต้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณโรงภาพยนตร์ที่7 ชั้น4 ก่อนจะลุกลามไปบริเวณอื่น อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไว้ 3 สาเหตุ อาทิ เกิดจากเจตนา ประมาท และอุบัติเหตุ ซึ่งยังไม่สามารถตัดประเด็นใดออกไปได้ ทั้งนี้ต้องทำการสืบสวนสอบสวน หลังจากนี้จะทำการประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ต่อมาเมื่อเวลา12.30น. วันเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานาคร ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งภายในตัวอาคาร เพื่อให้เพลิงสงบอย่างสมบูรณ์ก่อน สำหรับสาเหตุต้องรอทางเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง โดยจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะลงพื้นที่สอบสวนหาสาเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางพลัด และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรโครงสร้างเข้าตรวจสอบ ส่วนโครงสร้างมีการต่อเติมหรือไม่นั้น ต้องรอทางเจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานกรุงเทพมหานครเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้นำประชาชนที่อยู่ภายในตัวอาคารออกมาก่อน ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นเวลาทำงานของประชาชนทั่วไป จึงทำให้มีผู้ใช้บริการมีจำนวนน้อย ส่วนตัวเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ๆทำงานยังจุดเกิดเหตุ ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการทำงานด้วย ทั้งนี้ได้กั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในอาคาร