"ชัชชาติ" ย้ำใช้แผนบริหารจัดการน้ำรูปแบบเดิม มั่นใจป้องน้ำท่วมได้ อุตุฯเตือนทั่วไทยฝนตกหนัก-เบาสลับกันแต่ละวัน 12-21 ก.ย. ด้าน กรมชลฯ เร่งเดินเครื่องสูบน้ำออกทะเล ชี้จุดตัดรังสิตน่าห่วง ! ระยอง ยังระทมน้ำท่วมเพิ่ม ขณะที่ แม่อายอ่วม!พนังกั้นน้ำขาดหลายหมู่บ้านจมบาดาล

     เมื่อวันที่ 12 ก.ย.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครขณะนี้ ว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เช้านี้ พบว่าน้ำดีขึ้น คลองลาดพร้าวลดไป 50 ซม. คลองเปรมประชากรลดไปประมาณ 30 ซม. ที่หนักสุดและยังน่าเป็นห่วงคือลาดกระบัง คลองประเวศบุรีรมย์ น้ำยังไม่ลด และเมื่อคืนก็มีฝนตกเพิ่มขึ้นอีก 60 มม. แต่เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์การคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากรดีขึ้น คลองประเวศน์ก็จะดีขึ้นด้วย 

     นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เปิดประตูระบายน้ำในเขตลาดกระบังลงคลองพระโขนงมากขึ้น แต่จะเปิด100% ไม่ได้ ต้องค่อยๆ เปิดเพื่อให้น้ำทยอยเข้ามา และดูดด้านปลายออก ในส่วนของระยะยาวในอีก 2-3 ปีข้างหน้า คงต้องปรับปรุงประสิทธิภาพคลองให้ดีมากขึ้น สำหรับภาพรวมถนนสายหลักดีขึ้น ยกเว้นในพื้นที่เขตลาดกระบัง ถนนพัฒนาการ วงเวียนหลักสี่ และพหลโยธิน อย่างไรก็ตามถนนเทพรักษ์ยังมีน้ำอยู่ ถนนช่างอากาศอุทิศ ดอนเมือง ยังคงมีน้ำอยู่เล็กน้อย หากวันนี้ไม่มีฝนเพิ่มก็น่าจะสามารถบริหารจัดการได้ทั้งหมด 

     ด้าน เพจกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์ฝนช่วง 12 - 21 ก.ย. พบว่า ทั่วไทยยังมีฝนตกหนักเบาสลับกันในแต่ละวัน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมกรุงเทพมหานครและปริ มณฑล
   
  ขณะที่ กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำท่วมว่า  ได้กำชับให้สำนักชลประทานนำเครื่องจักรกลและตรวจสอบระบบชลประทาน สถานีสูบน้ำ และประตูระบายน้ำต่างๆ ที่มีจุดเชื่อมต่อกับพื้นที่กรุงเทพฯให้มีความพร้อมในการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมรังสิต จ.ปทุมธานี ยังน่าห่วง คือ จุดตัดระหว่างคลองรังสิตและคลองประปา เพราะน้ำผ่านไม่สะดวก เมื่อไหลมาแล้วมีไซฟอนข้าม เมื่อน้ำมามากจึงไหลไม่ทันน้ำก็เอ่อกลับไปด้านหน้า จึงประสานเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด
   
  ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.ระยอง พบว่า ขณะนี้ทางหลวงหมายเลข 36 ตอน มาบข่า-ทับมา ช่วงระหว่าง กม.42+300 ถึง กม.42+800 น้ำท่วมบริเวณผิวจราจร หลังมีฝนตกซ้ำ นอกจากนี้ทางหลวงหมายเลข 3145 ตอนบ้านเพ-ท่า เรือแกลง กม.2+575 (คลองกรูน บ้านเพ) น้ำได้กัดเซาะชั้นโครงสร้างคอสะพานเสียหายประมาณ 4.50 เมตรเป็นโพรงกว้าง การจราจรรถผ่านได้ 1 ช่องทาง
  
   ส่วนที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้เกิดเหตุน้ำหลาก และน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ หมู่ 5 หมู่ 6 หมู่ 7 และ หมู่ 8 หลังเกิดน้ำหลากท่วมถนนในหมู่บ้าน และบ้านเรือน รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ในพื้นที่ตำบลแม่นาวาง หมู่ 1, 2, 5, 8, 10 และ หมู่ 17 น้ำหลากเข้าบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร และหมู่ที่  5 มีคันพนังกั้นน้ำขาด