วันที่ 12 ก.ย.65 ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 20/2565 ถึงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดการน้ำท่วมของกทม.ว่ามีการตั้งรับมากกว่าเชิงรุกทำให้การจัดการน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากปริมาณฝนมีมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งกทม.มีกำลังคนและเครื่องมือไม่เพียงพอที่จะรับมือกับปริมาณฝนที่สูงถึง 170-180 มิลลิเมตร ซึ่งปริมาณดังกล่าวส่งผลให้น้ำเต็มคลองหลักทุกคลอง ประกอบกับเครื่องสูบน้ำที่กทม.มีอยู่บางจุดอย่างคลองพระโขนงค่อนข้างเก่าเพราะผ่านการใช้งานมานาน เมื่อใช้สูบน้ำได้ไม่นานก็ทำให้เครื่องร้อน อีกส่วนหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ สภาวะโลกร้อนส่งผลให้มีปริมาณฝนมากขึ้นกว่าปกติซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก เป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการด้านเทคนิค ด้านบริหารเชิงสังคมควบคู่กันไปในระยะยาว

"เราต้องยอมรับว่าฝนตกหนักขึ้นจากสภาวะโลกร้อน และกำลังของท่อระบายน้ำที่มีอยู่อาจไม่พอ เหตุการณ์เกิดขึ้นทั่วโลก ต้องวางแผนเพราะอุโมงค์อย่างเดียวไม่ตอบโจทย์เพราะฝนไม่ได้ตกที่อุโมงค์ต้องมีระบบลำเรียงน้ำไปที่อุโมงค์เพิ่มเติม อาจต้องแบ่งงบจากการทำอุโมงค์มาทำเรื่องเขื่อนคูคลองรวมถึงนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังเตือนว่าโลกกำลังเปลี่ยน ฝนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ" นายชัชชาติกล่าว