เรือหลวงศรีราชา ทัพเรือภาคที่ 2 จับกุมเรือประมงเวียดนาม 1 ลำ ลูกเรือ 5 คน ขณะลักลอบทำการประมงคราดปลิงทะเลในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน ขณะควบคุมเรือเพื่อเดินทางกลับเข้าฝั่งได้เกิดไฟไหม้ที่เครื่องยนต์ในห้องเครื่องและลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และได้จมลงในที่สุด ส่วนลูกเรือทั้ง 5 คน ปลอดภัย เดินทางนำกลับเข้าฝั่งเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

วันที่ 12 ก.ย.65 เรือหลวงศรีราชา ได้ออกปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทาง จ.นราธิวาส-เกาะโลซิน-จ.สงขลา เวลา 08.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.65) บริเวณ แลต 07องศา 22.9ลิปดาเหนือ ลอง 101องศา 48.5 ลิปดาตะวันออก พบเรือต้องสงสัยจำนวน 2 ลำ มีทิศทางวิ่งห่างออกจากกัน จึงได้ทำการติดตามจนเรือประมงต่างชาติยอมมอบตัวให้เข้าจับกุม จำนวน 1 ลำ ทางเรือหลวงศรีราชา ได้นำตัวลูกเรือทั้งหมด 5 คน ขึ้นจากเรือและส่งชุดตรวจค้น จำนวน3นาย ลงตรวจสอบตัวเรือ หลังจากตรวจสอบตัวเรือและทดลองข่ายวิทยุมดดำได้แล้ว

เรือหลวงศรีราชาก็ได้ทำการปลดเชือกเพื่อจะไล่ติดตามเรือต้องสงสัยอีก 1ลำ แต่ภายหลังนำเรือออกจากเรือลำแรกได้ไม่นาน ได้รับแจ้งจากชุดตรวจค้นบนเรือประมงว่าพบควันสีขาวออกมาจากเครื่องจักรใหญ่ในห้องเครื่องและเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นในเวลาต่อมา จึงตัดสินใจนำเรือใหญ่กลับเข้าไปช่วยเหลือนำชุดตรวจค้นออกจากเรือประมงโดยนำเรือยางออกไปรับกลับขึ้นมาบนเรือหลวงศรีราชาได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากในเรือประมงเวียดนามมีถังแก๊สอยู่ในเรือ 3 ถังรวมทั้งถังน้ำมันด้วย  เรือหลวงศรีราชา จึงไม่กล้านำเรือเข้าไปใกล้ขณะที่เรือไฟกำลังลุกไหม้ กลัวว่าถังแก๊สจะระเบิด ทำให้เรือได้รับความเสียหายได้

และในเวลา 11.40 น.เรือประมงเวียดนามก็จมลงบริเวณ แลต 07องศา 21.8 ลิปดา เหนือ ลอง 101 องศา 18.1ลิปดาตะวันออก

พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงศรีราชา ทัพเรือภาคที่ 2  ควบคุมลูกเรือทั้งหมด มาทำการสอบสวน ที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และเมื่อเวลา 18.00 น.วานนี้ (11 ก.ย.65) เรือหลวงศรีราชา ได้เข้าเทียบท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 พร้อมลูกเรือเวียดนาม 5 คน โดย มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งจากทัพเรือภาคที่ 2 และศรชล.ภาค 2  ได้เดินทางมาควบคุมดูแลการปฏิบัติเกี่ยวกับการจับกุมเรือประมงเวียดนาม พร้อมลูกเรือ 5 คน อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำการตรวจ ATK เข้มลูกเรือทั้ง 5 คน รวมทั้งจัดอาหารและน้ำดื่มมอบให้กับผู้ควบคุมและลูกเรือชาวเวียดนามทั้ง 5 คน เพื่อเป็นอาหารมื้อค่ำในวันนี้ด้วย

สำหรับการดำเนินคดีกับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม 5 คน เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา ดังนี้

1.ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 10)

2.ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 )

3.ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 )

การจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ ทัพเรือภาคที่ 2 ในปีงบประมาณ 2565 การจับกุมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 16 รวมเรือทั้งหมด 22 ลำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือรวม จำนวน 104 คน

สำหรับการเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ พลเรือเอก สมประสงค์  นิลสมัย รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล/ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบนโยบายให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในแต่ละภาค  “เปิดปฏิบัติการ ตรวจเพิ่มประสิทธิภาพในทะเล” โดยมุ่งเน้นการตรวจการทำประมงผิดกฎหมาย แรงงานภาคบังคับในเรือ จนถึงการค้ามนุษย์ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหา IUU Fishing ที่สหภาพยุโรปจะเข้ามาตรวจเยี่ยมผลการทำงานของประเทศไทย ในช่วงประมาณเดือนตุลาคมที่จะมาถึง

ในการนี้ พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 จึงสั่งการให้บูรณาการกำลังร่วมกับทัพเรือภาคที่ 2 จัดหมู่เรือตรวจการณ์ระยะไกล ดำเนินการตามนโยบายที่ได้รับ โดยให้เรือหลวงศรีราชา ออกปฏิบัติการตรวจเรือประมงในทะเล ลาดตระเวนเส้นทาง จ.นราธิวาส-เกาะโลซิน-จ.สงขลา