หมายเหตุ : “ทิพานัน ศิริชนะ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” เผยแพร่ผ่านช่องยูทูบ Siamrathonline เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2565 โดยได้ระบุถึงบทบาทและแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ “ทีมโฆษกรัฐบาล” ในห้วงที่การเมืองมีความเข้มข้น มีสาระที่น่าสนใจดังนี้
-การเข้ามาทำหน้าที่รองโฆษกรัฐบาลในห้วงที่การเมืองมีความเข้มข้นมีผลกระทบหรือไม่ และมากน้อยแค่ไหน
ต้องทำการบ้านเพิ่มมากขึ้น และทำงานให้หนักขึ้น เพราะในช่วงของสถานการณ์การเมืองที่ถูกจับตามองพี่น้องประชาชนต้องอยากทราบข้อมูลข่าวสารที่เท่าทันต่อเหตุการณ์อยู่แล้ว ดังนั้นเราในฐานะบทบาทของรองโฆษกรัฐบาล ก็จะต้องทำงานให้อย่างรวดเร็วฉับไวทันเหตุการณ์
-ยิ่งช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ ตรงนี้จะ เป็นช่องว่าง เป็นจุดเปราะบางอะไรหรือไม่
ในมุมมองส่วนตัวมองว่าการทำงานตรงนี้ เป็นการตอบรับการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านยังไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าท่านรองนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 คือท่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะต้องรับหน้าที่ในการรักษาราชการแทนและปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจุดนี้ท่านรองนายกฯทำหน้าที่ จะมาปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารกิจการต่างๆต่อเนื่องทันที ตรงนี้หลายๆคนกังวลใจว่าจะมีสุญญากาศ หรือเกิดข่าวลือเรื่องยุบสภาฯ ไปจนถึงเรื่องยึดอำนาจ
ซึ่งเรื่องนี้ กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจน จึงขออย่ามองไปไกลหรือว่าอย่าคิดไปในเรื่องที่อาจจะดูเหมือนดราม่า อยากให้มองในข้อเท็จจริงว่ากฎหมายกำหนดไว้
-วันนี้หลายคนบอกว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักคุณทิพานัน โดยเฉพาะล่าสุดอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร พูดถึงโดยส่วนตัวแล้วเรามองอย่างไร
ก็ต้องขอบคุณท่าน ที่พูดถึงชื่อทิพานัน ศิริชนะ วันนี้ก็พี่น้องประชาชนได้รู้จักทิพานัน ศิริชนะ เพิ่มมากขึ้นทำให้ได้ทราบข้อมูลข่าวสารที่จะสื่อสารข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ข้อความจริง และผลงานของรัฐบาลให้กับพี่น้องประชาชนทราบได้ในวงกว้างมากขึ้น
-การตอบโต้ของคุณทิพานัน เองดูเหมือนนอกจากจะพูดถึงเรื่องกรอบการทำงานในส่วนของรัฐบาล แต่จุดหนึ่งที่หลายคนมอง จะได้เห็นการตอบโต้ และโฟกัสในเรื่องของประเด็นทางการเมืองมากกว่า ทีมโฆษกท่านอื่นๆ
ในส่วนของเรื่องการตอบโต้ทางการเมือง เรามองว่า ประเด็นทางการเมืองส่วนหนึ่ง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม เวลาที่เราตอบโต้ทางการเมือง จะเห็นว่าเราต้องชี้แจงข้อความ บางข้อความที่ทำให้เกิดความสับสนในสังคม อันนี้มองว่าเป็นบทบาทหน้าที่ ที่สำคัญที่เราจะมีส่วนช่วยทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชนได้ เราไม่ได้มองว่าการตอบโต้เป็นภาระ หรือว่าเป็นสิ่งที่ผิดแปลกไปจากภาระหน้าที่ปกติของรองโฆษกรัฐบาล
- หากให้คำจำกัดความของตัวเองว่าเป็นรองโฆษกสายบู๊หรือสายหวาน
คิดว่าเราเป็นรองโฆษกสายหวาน แต่ก็บู๊ได้ บางคนบอกว่าทำไมบุคลิกภายนอกเราก็ดูเป็นผู้หญิง ที่อยากจะหวานบ้าง แต่เราก็เป็นผู้หญิงที่ไม่ยอมคนก็แล้วกัน ในเรื่องของการทำงานแน่นอนทุกคนทำงานจะทราบดีว่ามีทั้งอุปสรรค และสะดวกราบรื่น บางครั้งก็มีอุปสรรคมาให้เราต้องแก้ไข เพราะฉะนั้นในบทบาทการทำงานต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือหรือว่าส่งเครื่องให้ครบเพื่อที่จะได้ทำงานได้ตรงตามวัตถุประสงค์
- เราประเมินหรือไม่ว่า จากนี้ไปการเมืองจะเริ่มเข้าสู่ความเข้มข้นมากขึ้นหรือไม่ เมื่อเริ่มนับถอยหลัง เตรียมเข้าสู่โหมดของการเตรียมเลือกตั้งแล้ว
สถานการณ์ทางการเมืองในช่วงนี้ เป็นช่วงที่เรียกว่าขับเคี่ยวกัน ในเรื่องของการนำเสนอผลงานให้กับพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะในพรรคร่วมรัฐบาล ที่เป็นพรรคพลังประชารัฐ หรือว่าพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆก็พยายามที่จะนำเสนอให้กับพี่น้องประชาชน ณ วันนี้เนี่ยบทบาทของทีมโฆษกรัฐบาล บทบาทของรัฐบาล บทบาทของรัฐมนตรีท่านต่างๆก็มองไปในทิศทางเดียวกันคือการที่จะส่งความช่วยเหลือให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ส่วนการเมืองที่เข้มข้นในตอนนี้ก็ถือว่าเป็นสีสันที่ทำให้พี่น้องประชาชนได้มาหันมาจับตา
-วันนี้มีหลายคนสงสัยถึงความสัมพันธ์ของ “พี่น้อง 3 ป.” ว่ามีรอยร้าวกันเอง ข้อเท็จจริงแล้วเป็นอย่างไร
ในความเป็นจริง การบริหารงานบริหารราชการของทั้ง 3 ป. ทั้ง 3 ท่าน วันนี้ถือว่าเป็นการทำงานที่ประสานสอดรับกันได้เป็นอย่างดี โดยส่วนตัวไม่ได้เห็นท่าทีของความขัดแย้งหรือว่าสิ่งที่สื่อมวลชนหรือว่าบุคคลภายนอกคาดการณ์อยากจะให้เห็นว่าให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในระหว่างรัฐบาล ภายในรัฐบาลหรือภายในความสำคัญของ 3 ป. ดังนั้นถ้ามองจากคนในวันนี้เราไม่ได้เห็นความขัดแย้งใดๆเลย
- ในฐานะทีมโฆษกรัฐบาล อยากฝากอะไรถึงพี่น้องประชาชน ตลอดจนกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวนัดรวมตัวชุมนุมทางการเมือง ในห้วงเวลาที่ไทยเตรียมทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกในเดือนพ.ย.นี้ บ้าง
ณ จุดตรงนี้อยากให้พี่น้องประชาชนคนไทยยังไม่ต้องมองไปไกลถึงว่า เลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่เราควรต้องโฟกัสตอนนี้ คือเรากำลังจะเป็นประเทศที่เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปก หลายคนบอกว่าเราจะประชุมเอเปกแล้วได้อะไร อยากบอกว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปก คือการที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากหลายๆประเทศทั่วโลก ได้รับการยอมรับในระดับโลก พี่น้องประชาชนคนไทยจะเป็นเจ้าภาพคือการต้อนรับ แขกจากต่างประเทศเมื่อเขาเดินทางเข้ามาเขาก็จะนำภาพที่ดีของคนไทยออกไปสู่สายตาของต่างประเทศ
ฉะนั้นวันนี้เราพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพแล้ว เมื่อต่างประเทศเห็นเขาก็อยากเข้ามา จากนั้นจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้ามาสิ่งเหล่านี้ก็จะส่งต่อไป จากต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ พี่น้องประชาชนคนไทยได้รับข้อดีจากการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปกทั้งหมด ดังนั้นตอนนี้อยากให้ช่วยกันโฟกัสนี้เรื่องนี้ ช่วยกันจะเป็นตัวที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินก้าวต่อไปในอีกหนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว และก้าวต่อๆไปในอนาคต
- รัฐบาลห่วงเรื่องการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง ในช่วงเวลาสำคัญมากน้อยแค่ไหน
ความจริงแล้ว เราในฐานะคนไทย เราต้องรักชาติ รักแผ่นดิน และเราต้องภูมิใจในความเป็นคนไทย เพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนทางการเมืองที่จะมาบ่อนทำลายหรือว่าทำให้ประเทศชาติเสียชื่อเสียง อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ การเคลื่อนไหวใดๆก็ตาม ต้องคิดหน้า คิดหลัง และคิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นประเทศไทย ในส่วนของรัฐบาลเองมีการเตรียมพร้อมในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย รักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อให้การเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ก็ไม่ได้มีความกังวลใจในเรื่องของการเคลื่อนไหวทางการเมืองมากนัก
- ล่าสุดทราบว่าเพิ่งได้รับตำแหน่งในส่วนของทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ความพร้อมของพรรคพลังประชารัฐกับการเลือกตั้ง เป็นอย่างไรบ้าง เพราะพรรคก็ประกาศเป็นเบอร์หนึ่งในสนามเลือกตั้ง
พรรคพลังประชารัฐ ยังถือว่าเป็นพรรคขนาดใหญ่ ได้รับความสนใจจากทั้งในแวดวงการเมืองเอง และจากพี่น้องประชาชน วันนี้ที่มีการปรับโครงสร้างของทีมโฆษกก็ถือว่าเป็นการประกาศ และแสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐพร้อมเต็มที่ ที่จะเดินหน้าเพื่อพี่น้องประชาชน