วันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนพรรคภูมิใจไทย กรณีที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตคว่ำ 4 ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับเพิ่มเติม เพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว. เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยพรรคภูมิใจไทยจะไม่เป็นปัญหาในการทำงานกับรัฐบาล ว่า เป็นการทำตามหลักการประชาธิปไตย ไม่ได้มีเรื่องกับใคร ตนพูดมาตลอดตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 ไม่ใช่มาพูดเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีจากตัวแทนที่มาจากการเลือกของประชาชน แต่เราไม่ได้เป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ  เราจึงมีหน้าที่เคารพกฎหมาย แต่เมื่อมีการเสนอแก้ไข โดยมีวัตถุประสงค์หลักให้ ส.ส.เป็นผู้เลือกนายกรัฐมนตรีเราไม่มีทางเลือกอื่น สิ่งที่บอกว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นประชาธิปไตยนอกระบบ แต่เป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นว่าเมื่อถึงเวลาที่เราต้องแสดงความชัดเจนในหลักการประชาธิปไตยเราก็พร้อมที่จะทำ

เมื่อถามว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับถูกตีตกการเลือกตั้งครั้งหน้ายังใช้กติกาเดิมคือ ส.ว. มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า เราไปเสียเวลากับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์อะไร และการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนถ่ายอำนาจจาก คสช. มาเป็นระบอบประชาธิปไตยเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา การเลือกตั้งครั้งหน้าทุกคนเท่ากันหมด handicap (แต้มต่อ) ต้องเข้าไปแข่งขันให้ประชาชนเลือกเข้ามา ตนเชื่อว่า ส.ว. จะมีดุลพินิจในการเคารพเสียงของประชาชน เอาไว้ให้เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยว่ากัน

“สำหรับผมไม่เชื่อว่าจะมีนายกรัฐมนตรี ที่มีเสียงจาก ส.ส.ไม่ถึงครึ่งกึ่งหนึ่ง แล้วมาบวกกับ ส.ว. ไม่เกิน 375 เสียง ผมพูดมาตลอดว่าถ้าเกิดขึ้นจริงนายกรัฐมนตรีคนนั้นคงเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในโลก และคงไม่มีใครกล้าที่จะรับตำแหน่งที่มาจากวิถีทางนั้น เชื่อว่าอย่างไรก็จะต้องมีนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส.ในการที่จะบริหารราชการแผ่นดิน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้านายกรัฐมนตรีจะมาจากสายพลเรือน เพราะอำนาจ 3 ป.เหลือเพียงแค่ปีเดียว นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะเรายึดถือหลักว่าคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีมาจากคนที่ประชาชนเลือกมา และจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีประชาชนเป็นกำแพงค่อยสนับสนุนซึ่งถือเป็นหลักประชาธิปไตยพื้นๆ

เมื่อถามย้ำว่า ส.ว. จะโหวตให้นายกรัฐมนตรี ที่มีเสียงมากที่สุดใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในทางทฤษฎีต้องเชื่ออย่างนั้น เพราะไม่ว่าจะเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. ก็คือคนที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนจะต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน

เมื่อถามว่าถ้านายกรัฐมนตรีได้รับเสียงเกิน 250 เสียง ส.ว.จะไม่กล้าฝืนใช่หรือไม่  นายอนุทิน อึ้งไปสักครู่ ก่อนกล่าวว่า ให้มันเกิดขึ้นก่อน แต่ถ้าเกิน 250 เสียงแล้ว ส.ว.ฝืนไปเลือกอีกคนที่มีคะแนนน้อยกว่า 250 เสียง ก็บอกแล้วว่าคนๆนั้นจะน่าสงสารที่สุด แล้วจะทำงานได้อย่างไรแม้ว่า ส.ว. จะพามาได้ แต่ ส.ว. ประคองไม่ได้ ถ้าสมมุติว่าจะเอาแบบนั้นมา ถึงมือพวกตนในฐานะส.ส. เคยเห็นคนโยนไก่ให้จระเข้หรือไม่