จากกรณีที่เพจ pattaya wacthdog ได้โพสต์ข้อความพบกระชังกลางอ่าวพัทยา หน้าหาดวงศ์อมาตย์ หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยระบุข้อความว่า @ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา โปรดทราบ คนเดินเรือในอ่าวพัทยาแจ้งมาว่าพบการตั้งกระชังกลางอ่าวพัทยา หน้าหาดวงศ์อมาตย์ และเมื่อคืนนี้เกิดอุบัติ เหตุเรือประมงชนกระชัง ที่กีดขวางทางน้ำ ซึ่งถือว่าอันตราย ด้วยไม่มีทุ่นเตือน ซึ่งตามกฎหมายแล้ว สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ต้องมีหน้าที่กำกับดูแลควบคุมการก่อสร้างสิ่งที่ล่วงล้ำลงไปในทะเล ชายหาดสาธารณะ ซึ่งรวม ถึงกระชังปลาด้วย เจ้าของสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ตามลำน้ำทั่วประเทศจะต้องมาแจ้งและขออนุญาตต่อกรมเจ้าท่า ถ้าสิ่งใดอนุญาตไม่ได้ ต้องดำเนินการออกคำสั่งรื้อถอน
ล่าสุดในวันนี้ ( 7 ก.ย. 65 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบ บริเวณย่านกลุ่มประมงท้องถิ่น ชายหาดวงศ์อมาตย์ ได้พบกระชังปลาดังกล่าว ซึ่งมีขนาดประมาร 2 เมตร x 80 เซนติเมตร ลอยอยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 100 - 200 เมตร โดยมี นายศักดิ์กริน โตประวัตร อายุ 41 ปี หนึ่งในสมาชิกกลุ่มประมงท้องถิ่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่ากระชังปลาที่ลอยอยู่เป็นของกลุ่มประมงพื้นบ้าน ซึ่งทำขึ้นเพื่อไว้พักปลาหมึกเป็นๆ โดยปกติถ้าฝนไม่ตกหรือเมืองพัทยาไม่ได้ทำการระบายน้ำในช่วงฝนตกหนัก รวมถึงท่อน้ำทิ้งในละแวกดังกล่าวก็จะนำกระชังพักปลาหมึกมาผูกไว้ใกล้ๆบริเวณเรือกลุ่มประมงที่จอดลอยลำอยู่ริมหาด โดยบริเวณกระชังจะมีการทำทุ่นสัญลักษณ์และสัญญาณไฟชัดเจน แต่ในช่วงนี้ มีฝนตกเกือบทุกวัน สภาพน้ำทะเลริมหาดมีความสกปรกมาก จึงนำไปลอยทอดสมอชั่วคราวเพื่อรักษาสภาพความสดของปลาหมึกอยู่ที่บริเวณดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดินเรือ ส่วนเรือที่มาชนก็เป็นเรือประมงในกลุ่ม การพูดคุยกันแล้ว และไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ส่วนกระชังพักหมึกก็เป็นของส่วนรวมเพื่อสร้างรายได้ให้กับประมงท้องถิ่น
นายศักดิ์กริน โตประวัตร อายุ 41 ปี เล่าต่อไปอีกว่าเรื่องกระชังปลายอมรับว่าการกระทำในครั้งนี้ เข้าข่ายผิดกฎหมายกรมเจ้าท่าหรือไม่ ภายหลังเกิดเรื่องได้เข้าปรึกษากับท่านประธานกลุ่มประมงท้องถิ่นฯ พร้อมทั้งทำเรื่องสอบถามไปยัง กรมเจ้าท่าทันทีซึ่งก็รับคำตอบว่าสามารถทำได้ โดยต้องเดินทางไปขอทำเรื่องกระชังปลาชั่วคราว แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่หลังจากนี้ก็จะพยายามทำให้ถูกต้องตามระเบียบต่อไป โดยขอยืนยันว่า สิ่งที่ทำลงไป เพียงต้องการทำเพื่อสร้างรายได้ให้กับกลุ่มประมงท้องถิ่นเท่านั้น

