774 ล้านกับอีก 14 ปี มหากาพย์สนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก “นายกเบียร์” ชี้ปัญหา E-Bidding ส่งผลกระทบการจ้างเหมา เตรียมชงของบเพิ่ม 250 ล้านมั่นใจสร้างเสร็จใน 2 ปี
สำหรับโครงการก่อสร้างสนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี มีดำริให้ริเริ่มดำเนินการบนพื้นที่ 371 ไร่ในเขตหมู่ที่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปี 2560 ด้วยการขอจัด สรรงบประมาณจากภาครัฐจำนวน 774 ล้านบาท แต่พบว่าโครงการนี้หลังผ่านพ้นระยะเวลามานานกว่า 14 ปี ภาพสะท้อนที่จะทำให้สังคมมองเห็นว่าโครงการนี้ใกล้จะเป็นรูปธรรมยังไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด จนกลายเป็นอีกโครงการเมกะโปรเจคอีก 1 โครงการที่หลายคนมองว่าเมืองพัทยาล้มเหลวในการบริหารจัดการอย่างสิ้นเชิง ด้วยสภาพพื้นที่ของโครงการที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้าง อุปกรณ์ภายในอาคาร รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า อิเลคทรอนิกส์ สุขภาภัณฑ์ ครุภัณฑ์ ต่างๆนอกจากจะถูกปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลาเหมือนได้มาแบบฟรีๆ ยังปล่อยให้มีคนเร่ร่อนจรจัดเข้ามาเป็นที่พักผ่อนและลักทรัพย์สินของทางราชการไปจำหน่าย โดยที่เมืองพัทยาไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยาคนใหม่ป้ายแดง เปิดเผยถึงกรณีนี้หลังรับงานได้เพียง 3 เดือนว่าโครงการนี้เป็นอีก 1 ปัญหาที่ทางกลุ่มนำมาใช้ในการหาเสียงเพื่อจะหาทางแก้ไขให้สำเร็จลุล่วงให้จงได้ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีการจัดงบประมาณวางแผนการก่อสร้างไว้ 3 ระยะ คือ 1.ระหว่างปี 2551-2553 ซึ่งเป็นการก่อสร้างอัฒจันทร์ขนาด 5,000 ที่นั่ง ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2554 2.เมืองพัทยาได้ทำข้อตกลงกับทัพบกภาคที่ 1 ในการก่อสร้างอัฒจันทร์ในตำแหน่งที่นั่งประธาน ซึ่งพบปัญหาด้านภูมิศาสตร์ และปฐพีศาสตร์ กล่าวคือบริเวณที่ตั้งโครงการคือช่วงเนินเขา พื้นด้านล่างเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่ การก่อสร้างต้องใช้เทคนิคพิเศษ รวมทั้งลู่วิ่งมาตรฐาน โดยใช้งบประมาณมากขึ้น 536 กว่าล้านบาทกระทั่งแล้วเสร็จในปี 2557
ต่อมาในปี 2559 คสช. ได้แต่งตั้งคณะบุคคลเข้ามาเป็นสมาชิกสภาเมืองพัทยา สภาเมืองพัทยาชุดนี้ได้เข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างช่วงต้นปี 2560 ซึ่งพบว่าการก่อสร้างของทหารช่างมีความคืบหน้าในการก่อสร้างที่นั่งฝั่งอัฒจันทร์ของสนามฟุตบอลมาตรฐานตามแบบของการกีฬาแห่งประเทศ ขนาด 20,000 ที่นั่ง และโครงหลังคามีความคืบหน้าไปบางส่วน 70% จากนั้นในช่วงเดือนกันยายน 2560 สภาเมืองพัทยาได้เปิดอภิปรายว่าจากการอนุมัติงบอุดหนุนไปให้โครงการนี้อีก 99 ล้านบาท พบว่าไม่มีความคืบหน้าและการจัดซื้ออุปกรณ์ก็มีราคาสูงเกินจริงหลายรายการ กระทั่งเมืองพัทยาได้ทำสัญญาจ้างเอกชนตามระบบ E-Bidding เข้ามาดำเนิน การก่อสร้างในระยะที่ 3 ด้วยงบประมาณอีก 398 ล้านบาท หรือต่ำกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ถึง 445 ล้านบาท ซึ่งเบิกจ่ายไปแล้ว 12 งวดเป็นเงิน 143.2 ล้านบาท ก่อนสุดท้ายผู้รับเหมาจะทิ้งงานไป เมืองพัทยาจึงต้องยึดเงินประกัน 19 ล้านบาท พร้อมค่าปรับอีก 80 ล้านบาท เงินล่วงหน้าอีก 38 ล้านบาทและกำลังฟ้องร้องในส่วนที่เหลืออีก 61 ล้านบาทซึ่งเรื่องยังอยู่ในขบวนการของชั้นศาล
นายปรเมศวร์ กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อหาแนวทางเร่งรัดติดตามและผลักดันให้โครงการประสบผลสำเร็จโดยเร็ว เนื่องจากทราบว่าที่ผ่านมาคณะผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มาตรวจความคืบหน้าศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมื่อต้นปี 2562 ทั้งนี้การกีฬาแห่งประเทศไทยมีนโยบายจะผลักดันให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ในปี 2569 ซึ่งได้เสนอต่อคณะกรรมโอลิมปิกสากลไปแล้ว และด้วยนโยบายของทีมกลุ่มเรารักษ์พัทยาที่ต้องการพัฒ นาให้เมืองพัทยาเป็น Sport Tourism หรือศูนย์กลางของ EEC อย่างเต็มรูปแบบ จึงได้เตรียมเสนอขอจัดสรรงบประมาณจากสภาเมืองพัทยาอีกจำนวน 250 ล้านบาทเพื่อให้ดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 ปีนี้ให้ได้
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงการนั้นปัจจุบันเมืองพัทยาได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ สวนข้อเท็จจริง รวมทั้งมอบหมายให้นิติกรไปแจ้งความดำเนินการกับผู้ที่บุกรุกและขโมยทรัพย์สินของทางราช การไป รวมทั้งจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าตรวจวัสดุอุปกรณ์และสถานที่สำคัญไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นอีก พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จตามที่สัญญาไว้กับประชาชนแน่นอน...