เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ห้องประชุมช่องกระจก ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จ.ประจวบฯ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม มีการติดตามสถานการณ์การลักลอบหลบหนีเข้าเมืองบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่ จ.ประจวบฯ และการรับทราบสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าชายแดน หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์สั่งการชายแดนฯได้มีการผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาขนถ่ายสินค้าผ่านด่านสิงขรได้อีกครั้ง ตั้งแต่วันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.30 น.-16.30 น. พบว่ามีมูลการนำเข้าส่งออกสินค้าในเดือนสิงหาคม 65 จำนวนกว่า 153 ล้านบาท แบ่งเป็นการนำเข้า 144 ล้านบาท และการส่งออก 9.5 ล้านบาท ขณะที่เมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เคยมีมูลการนำเข้าส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขรตลอดทั้งปีจำนวนถึง 1,625 ล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่าการค้าชายแดนผ่านช่องทางด่านสิงขรจะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ


การประชุมในครั้งนี้ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับการเข้าใช้ประโยชน์อาคารด่านพรมแดนสิงขรของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมาตรการรองรับกรณีการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรให้บุคคล ยานพาหนะและสิ่งของสามารถผ่านเข้าออกได้ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบตามเกณฑ์และการแสดงผลตรวจโควิดของชาวเมียนมาที่จะเดินทางเข้ามาในไทยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะเวลาการอยู่พำนักของชาวเมียนมาที่ถือบัตรผ่านแดนหรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวผ่านด่านสิงขรเข้ามายังประเทศไทยภายใต้เงื่อนไขของการเป็นจุดผ่อนปรนพิเศษ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประชุมคณะทำงานย่อยเพื่อพูดคุยหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดดังกล่าวให้ได้ข้อสรุปก่อนที่จะมีการประสานกับทางการเมียนมาเพื่อทำความตกลงร่วมกันต่อไป. 

​​​​​​​