จากกรณีเกิดเหตุสลดเด็กหญิงอายุ 7 ปี เด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เสียชีวิตในรถตู้รับส่งของโรงเรียน  โดยส่วนใหญ่คิดว่าเกิดจากขาดอากาศหายใจ 

"อ.เจษฎ์" รศ.ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์"  ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ...

"เวลาเด็กติดในรถ แล้วเสียชีวิตเนี่ย หลายสำนักข่าวมักจะรายงานว่า "คาดว่าขาดอากาศหายใจ" !? ซึ่งไม่ใช่นะครับ ! อากาศมักจะผ่านเข้าไปในรถได้ทางช่องเล็กช่องน้อยของรถ ยังมีออกซิเจนให้หายใจได้เป็นชั่วโมงๆ

แต่จริงๆ แล้ว สาเหตุการเสียชีวิตคือ "ความร้อนสูง" ที่เกิดขึ้นในรถต่างหากครับ แค่ครึ่งชั่วโมงก็ทำให้เสียชีวิตได้แล้ว จากการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเกินไป จนระบบการทำงานในร่างกายล้มเหลว เกิดอาการ Heat stroke ได้

หลายคนไปเข้าใจผิดว่า แง้มหน้าต่างไว้หน่อยตอนทิ้งลูกไว้ในรถ จะได้มีอากาศหายใจ .. ซึ่งผิดมหันต์เลยครับ เพราะถึงแง้มไว้ อากาศในรถก็ร้อนสูงขึ้นจนเป็นอันตรายได้อยู่ดี

ดีที่สุดคือ อย่าทิ้งเด็กทิ้งลูกไว้คนเดียวในรถครับ เอาลงไปด้วยกันให้หมดน่ะปลอดภัยสุดแล้ว

-------------------------

(รายงานข่าว) แพทย์ชี้เด็กติดในรถแค่ 30 นาทีตาย เพราะความร้อนสูง ส่งผลเกิดภาวะเลือดเป็นกรด หยุดหายใจ ไม่ใช่ขาดอากาศหายใจตามที่เข้าใจ แนะพ่อแม่ห้ามทิ้งลูกไว้ในรถ

19 ธ.ค.55 รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเด็ก 3 ขวบเสียชีวิตขณะติดอยู่ในรถว่า

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เด็กที่ติดอยู่ในรถแล้วเสียชีวิตเป็นผลจากการขาดอากาศหายใจจากการที่ปิดประตูหน้าต่างสนิท แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ อากาศภายในสามารถนอนได้นานเป็นชั่วโมง

ส่วนใหญ่เด็กจะเสียชีวิตจากความร้อนภายในที่สูงขึ้น ซึ่งใช้เวลาเพียง 5 นาทีอุณหภูมิในรถจะเพิ่มสูงขึ้นจนไม่สามารถอยู่ในรถได้ หากอยู่ในรถผ่านไป 10 นาที ร่างกายจะแย่ และภายใน 30 นาทีถึงขั้นเสียชีวิต

“ปกติร่างกายจะรักษาอุณหภูมิร่างกายไว้ที่ 37 องศาเซลเซียส เมื่อต้องติดอยู่ในรถที่ความร้อนสูงขึ้น ช่วงใหม่ๆ ร่างกายจะขับความร้อนออกมาในรูปแบบของเหงื่อ

แต่เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งร่างกายจะทนไม่ไหว ทำให้ร่างกายหยุดทำงาน เกิดภาวะเลือดเป็นกรด หยุดหายใจและอวัยวะทุกอย่างหยุดทำงาน หากพบเจอเด็กที่ติดในรถได้เร็วจะเจอในสภาพที่เด็กตัวแดง แต่หากนานเด็กจะตัวซีดและเสียชีวิตได้”รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าว

รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า พ่อแม่ห้ามทิ้งลูกไว้ในรถที่จอดกลางแจ้งเป็นอันขาด ไม่ว่าพ่อแม่ผู้ใหญ่จะต้องลงไปธุระนอกรถเร็วหรือช้า หากพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่มากับเด็กต้องลงจากรถต้องนำเด็กลงไปด้วยทุกครั้ง

หรือไม่ควรเปิดแง้มหน้าต่างไว้แล้วให้เด็กอยู่ภายใน เพราะการกระทำเช่นนี้เนื่องจากเข้าใจว่าเด็กไม่ขาดอากาศหายใจแล้วจะปลอดภัย แต่ข้อเท็จจริงเด็กเสียชีวิตจากความร้อนสูง แม้เปิดแง้มหน้าต่างรถทิ้งไว้ก็ไม่ได้เป็นการรับประกันว่า ความร้อนภายในรถจะไม่สูงขึ้นและช่วยให้เด็กปลอดภัยได้

หรือหากรถจอดในที่ร่ม เด็กอาจจะเสียชีวิตจากความร้อนที่สูงขึ้นได้เช่นกัน แต่อาจใช้เวลานานกว่ารถที่จอดกลางแจ้ง จึงไม่ควรทิ้งเด็กไว้ในรถเช่นกัน"

ขอบคุณ เพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์