สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ประธานาธิบดีคนที่ 8 และคนสุดท้ายของอดีตสหภาพโซเวียตรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ปิดฉากสงครามเย็น โดยปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อ ได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น สิริรวมอายุ 91 ปี
โดยโรงพยาบาลเซ็นทรัลคลินิก กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย แถลงว่า นายกอร์บาชอฟ ได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อช่วงค่ำของวันอังคารที่ผ่านมา ภายหลังจากมีอาการป่วยหนักและเรื้อรังมานาน
ขณะที่ ปฏิกริยาจากผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปรากฏว่า โฆษกทำเนียบเครมลิน ซึ่งเป็นทำเนียบประธานาธิบดีของรัสเซีย แถลงว่า มีความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปของอดีตผู้นำประเทศคนสำคัญ และเตรียมที่จะส่งสารแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของนายกอร์บาชอฟต่อไป
ทางด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวแสดงความเสียใจ พร้อมทั้งระบุด้วยว่า นโยบายกลาสนอสต์ และเปเรสตรอยกา ซึ่งเป็นการเปิดกว้าง และปรับโครงสร้างของนายกอร์บาชอฟ ไม่ใช่เป็นเพียงสโลแกนคำขวัญ แต่เป็นหนทางที่ทำให้ชาวสหภาพโซเวียตรัสเซียเดินไปข้างหน้า
ด้านนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวแสดงความเสียใจ และยังระบุด้วยว่า ความพยายามของนายกอร์บาชอฟ ทำให้สหภาพโซเวียตรัสเซียกลายเป็นสังคมเปิด และเป็นแบบอย่างแก่พวกเราทุกคน
ด้าน นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปแห่งสหภาพยุโรป หรืออียู กล่าวว่า นายกอร์บาชอฟ ซึ่งเคยได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เมื่อปี 1990 (พ.ศ. 2533) เป็นผู้เบิกทางให้ยุโรปก้าวสู่ยุคเสรี