เพื่อความเท่าเทียมในฐานะคนไทย ของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์มันนิ ซึ่งอาศัยในพื้นที่บ้านควนดินดำ  ต.ปาล์มพัฒนา  อ.มะนัง  จ.สตูล  นายรอมดอน  หะยีอาแว  นายอำเภอมะนัง  นำคณะ ปลัดอำเภอ  ฝ่ายปกครอง  ส่วนเกี่ยวข้อง เดินทางขึ้นเขาซึ่งเป็นทับหรือบ้านมันนิ  เพื่อมอบชุดนักเรียน  ทั้งเสื้อที่ปักชื่อสกุลเรียบร้อยแล้ว(นามสกุลศรีมะนัง)  กางเกง  กระโปรง  รองเท้านักเรียน  รวมถึงกระเป๋าเป้สำหรับใส่หนังสือเพื่อไปเรียนร่วมกับเพื่อนๆนักเรียน  ณ  โรงเรียนบ้านป่าพน  อ.มะนัง  จ.สตูล  ซึ่งห่างจากทับ  6 กม.

    เมื่อคณะเดินทางถึงยังทับของกลุ่มชาติพันธ์มันนิ  ซึ่งสภาพโดยรวมดูสะอาดตา  บ้านเรือนถูกสร้างอย่างง่ายยกพื้นสูงจากพื้นดินไม่มากนัก   มีสมาชิกอายุอยู่ 40 คน  และสมัครใจเข้าเรียนกับเพื่อนๆในเมือง จำนวน 8 คน  แบ่งเป็นนักเรียนชาย 5 คน  หญิง 3 คน  อายุระหว่าง  6-20 ปี  ออกจากทับเข้ามารับชุดนักเรียนที่ทางอำเภอมะนังนำมามอบให้  ก่อนลองชุดนักเรียนเพื่อเตรียมตัวเป็นนักเรียนไปเรียนหนังสือกับเพื่อน ๆ  ซึ่งเบื้องต้นจะเข้าเรียนเพื่อปรับความรู้พื้นฐาน   
 

    ทั้งนี้ที่บริเวณทับมันนิ ยังมีโรงเรียนขนาดเล็ก  มีโต๊ะนักเรียน  กระดานดำ  และล่าสุดทางนายรอมดอน  หะยีอาแว  นายอำเภอมะนัง ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง และพระราชินี มาติดไว้ที่โรงเรียน  สำหรับโรงเรียนที่ทับมันนี้แห่งนี้  จะมีครูจิตอาสามาสอนความรู้พื้นฐานให้ สอนการเขียน พยัญชนะไทย  และอื่นๆ  แต่จะไม่ได้ขึ้นมาเป็นประจำ ด้วยสภาพเส้นทางไกล 

    ด้าน นายรอมดอน  หะยีอาแว  นายอำเภอมะนัง  กล่าวว่า   ชนเผ่ามันนิเป็นอีกกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย  ถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยอพยพย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ มีประมาณ 40 คน อยู่กันเป็นครัวเรือนขนาดใหญ่เดิมไม่ได้รับสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน  ไม่ได้รับบัตรประชาชน  ทางอำเภอมะนัง  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล   พยายามให้สิทธิ์เขาโดยการให้สัญชาติไทย เมื่อมีสัญชาติไทยก็ได้บัตรประชาชน เมื่อมีบัตรประชาชนก็กลายเป็นคนไทย   สิ่งที่ควรจะได้ตามมา  คือสิทธิขั้นพื้นฐานด้านการศึกษาและด้านสาธารณสุข   อำเภอมะนังก็พยายามดูแลด้านการศึกษาเริ่มให้น้องๆที่เป็นกลุ่มเด็กๆเริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่กับเพื่อนๆที่โรงเรียน  เพื่อไปทดลองก่อน  ลองเรียนรู้อาทิตย์ละ 1 วันขยับเป็น 2 วันขยับเป็น 3 วัน  พออยู่ไปเรื่อยๆก็เข้าสู่ระบบการศึกษาที่พื้นฐาน  โดยไปเรียนที่โรงเรียนบ้านป่าพน

ทางอำเภอ จึงทำโครงการที่จะมอบ ชุดนักเรียน  กระเป๋า  อุปกรณ์การเรียนให้น้องๆไปเรียนกับเพื่อนๆซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ได้จากน้ำใจของพี่น้องชาวอำเภอมะนังที่ร่วมกันบริจาคให้เป็นอุปกรณ์การเรียนของน้องๆ มันนิ  ที่จะไปเรียน   นอกจากนี้เรายังให้สิทธิ์พื้นฐานด้านสาธารณสุข   ด้วยมีการดูแลฉีดวัคซีนและตรวจติดตามสุขภาพให้ความรู้เรื่องการดูแลบุตรของชนเผ่ามันนิอีกด้วย   ส่วนนักเรียนที่จะไปเรียนมีจำนวน 8 คน ส่วนเส้นทางจากทับไปโรงเรียนก็หลายกิโลเมตรต้องเดินเท้าเข้าไปจากตีนเขา ประมาณ 1-2 กิโลเมตร  จะมีกำนันผู้ใหญ่บ้านและเรียนมาคอยรับส่งจากตีนเขาไปที่โรงเรียนโดยอาศัยมอเตอร์ไซค์ในการรับส่ง


 
    ด้านนายนายไพโรจน์  ดำพลับ  ผู้ใหญ่ที่กลุ่มชาติพันธ์มันนิ มะนัง เคารพ   กล่าวว่า  น้องๆเขาอยากจะเรียน  ผมเคยพูดบ่อยๆว่าทุกกลุ่มมันนิอื่นๆได้เรียนหนังสือกันหมดแล้ว  แต่พวกเรานี้ไม่เคยได้เรียน   พูดให้เขาฟังว่าเราต้องเรียนหนังสือ   เขาก็อยากจะเรียนเพราะต่อไปเมื่อจบมาจะได้พากลุ่มของเขาสามารถเดินไปได้  จากที่ทางอำเภอได้เข้ามาสนับสนุนหลายๆอย่างนั้น   ทางพี่น้องมันนิชื่นชอบเพราะว่าการเป็นอยู่ของเขาทุกวันนี้แทบจะไม่มีอะไรกิน   บางวันถ้าไม่มีอะไรกิน  ก็สามารถปลูกผักได้   โอกาสนี้ต้องขอบคุณทางอำเภอและทุกท่านที่มาช่วยเหลือครับ
    
    นอกจากนี้แล้ว  พื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณทับ  ถูกจัดพื้นที่ไว้สำหรับปลูกผักสวนกครัว ซึ่งทางอำเภอได้เข้ามาสนับสนุน  พร้อมสอนมันนิให้ปลูก  ดูแล  พืชผัก  เพื่องลดความเดือดร้อนจากการขาดแคลนอาหาร  แก้ปัญหาการออกไปขออาหารจากชาวบ้าน  แต่เป็นการสร้างแหล่งอาหารด้วยตัวเอง จนสามารถดูแลตัวเองได้
    
นายแช่ม  ศรีมะนัง  อายุ  50 ปี  (1 ในกลุ่มมันนิ)  บอกว่า  ดีใจที่ทางอำเภอนำผักมามอบให้ ทุกวันก็ดูแล  รดน้ำ  ส่วนผักนี้มี ผักบุ้ง  ส่วนผักชนิดอื่นนั้นไม่รู้จัก   ผักบุ้งโตแล้วจึงนำไปผัดกิน  กินแล้วอร่อย  ดีใจที่ทางอำเภอมาสนับสนุนเรื่องการปลูกผัก
     ​​​​​​​
    สำหรับกลุ่มชาติพันธ์มันนิกลุ่มนี้  อยู่รวมกัน 40 ชีวิต  บนพื้นที่หมู่ 9  บ้านควนดินดำ  ต.ปาล์มพัฒนา  อ.มะนัง  จ.สตูล  จะได้รับบัตรประชาชนทุกคนเมื่ออายุครบตามเกณฑ์ทำบัตรประชาชน