วันที่ 29 ส.ค.65 กรมอู่ทหารเรือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจดูการบรรจุและวางกระสอบทรายโดยการสนับสนุนกำลังพลของทหาร โดยมีพลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ พลตรีญาณะโชติ ผลฉาย ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการพลเรือน สำนักนโยบายและแผนกลาโหม และ นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร่วมด้วย

นายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้มาให้กำลังใจทางทหารที่เข้ามาร่วมกับเจ้าหน้าสำนักการระบายน้ำในการทำเขื่อนอุดฟันหลอตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับกรุงเทพมหานคร ที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ให้ความช่วยเหลือมา มีจุดสำคัญ 2 จุด คือ บริเวณอู่ทหารเรือธนบุรี ระยะทาง 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดฟันหลออยู่ เพราะเป็นจุดที่ต้องนำเรือเข้าออก หากน้ำทะลุเข้าจากจุดตรงนี้ได้ก็จะเข้าไปกระทบชุมชนด้านในหลายชุมชน วันนี้มีกำลังพล 50 นาย มาร่วมกับเจ้าหน้าที่ กทม. 50 นาย จะเสร็จในบ่ายนี้ อีกจุดที่บริเวณถนนเจริญกรุง เป็นอีกจุดรูรั่ว มี 2จุดคือใต้สะพานตากสิน และบริเวณสะพานปลา มีกำลังทหารอีก 50 นาย ไปช่วยกรอกกระสอบทรายให้พร้อมในการจัดเรียง 

 กทม.กับกองทัพได้มีการประสานงานกันมาตลอด ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ ได้ให้นโยบายมาเมื่อเดือนที่แล้ว ได้มีความร่วมมือกันในการขุดลอกคลองต่างๆ อนาคตคงมีความร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทหารเองก็มีกำลังพลและองค์ความรู้ กรมอุทกศาสตร์ที่ดูน้ำขึ้นน้ำลง รวมถึงเครื่องมือ เช่นเครื่องผลักดันน้ำ แต่ต้องดูทั้งประเทศ ก็อาจมีบางส่วนที่จะขอมาช่วยเรื่องผลักดันน้ำในพื้นที่ กทม.ได้ ทหารเรือเองก็ช่วยดูแลชุมนุมอย่างใกล้ชิดทั้งการเตือนและเข้าไปดูแลปัญหาต่างๆ พื้นที่ฝั่งธนบุรีไม่น่าเป็นห่วง ทางทหารเรือได้ช่วยขุดลอกคลองไว้ค่อนข้างดี มีแค่คลองทวีวัฒนาที่มีจุดขอขวด ด้านฝั่งตะวันออกที่กังวลคือปริมาณน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งจะมีผลกับคลองประเวศบุรีรมย์ และคลองแสนแสบ อาจต้องขอเรือผลักดันน้ำไปช่วยด้วย โดยทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติรายงาน ในช่วง 4-5 วันนี้ฝนจะเบาลง จะเร่งระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขออย่าตระหนกกังวลมาก ฝนจะเว้นช่วงไปจนถึงวันที่ 3 กันยายน จึงต้องเร่งระบายน้ำออกเพื่อลดน้ำจากพื้นที่ตอนบน

ทั้งนี้ ความคืบหน้าการป้องกันแนวฟันหลอริมเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 76 จุด ได้เรียงกระสอบทราบตลอดแนวแล้ว เหลือ 3% ในการเสริมแนวเขื่อนให้สูงขึ้น สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน นำ้เหนือที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานคร อยู่ประมาณ 1,400 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเฝ้าระวังที่ปากคลองตลาด วานนี้อยู่ที่ 1.86 เมตร ยังอยู่ในระดับที่เขื่อนควบคุมได้ โดยในปีนี้ระดับน้ำที่ปากคลองตลาดจะอยู่ที่ 2.08 เมตร ซึ่งขณะนี้ยังไม่เกิน ยังไม่ถึงจุดวิกฤต ปัญหาคือน้ำที่รั่วจากจุดรอยต่อที่เป็นตะเข็บหรือจุดอ่อนที่รั่วผ่านช่องระบายน้ำอื่นขึ้นมา ก็พยายามดูแลภาพรวม ต้องดูสถานการณ์โลก เรื่องน้ำก็น่ากลัว ภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดฝนที่ไม่คาดคิดในหลายพื้นที่ เราก็พยายามเตรียมรับมือไว้ ทั้งการทำเขื่อนและการระบายน้ำ 

“ เทียบปี 54 ที่น้ำท่วมหนัก น้ำที่ปล่อยเข้ามา 3,500-4,000 ลบ.ม./วินาที คิดว่าเรารับ 2,500 ลบ.ม./วินาที ก็ยังไม่น่ามีปัญหา แต่ต้องดูระดับน้ำทะเลหนุนด้วย และพายุที่จะเข้ามา จากกรมอุตุฯคาดการณ์จะมี 2 ลูก ในช่วงเดือนกันยายนนี้ เราทำงานกันอย่างบูรณาการไร้รอยต่อทุกหน่วยงาน กทม.เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยกันแก้ปัญหา เป็นนิมิตรหมายที่ดี หลักการคือเราดูแลชุมชนใกล้เคียง หน่วยงานดูแลชุมชนที่ใกล้ สุดท้ายก็จะเห็นภาพต่อรวมกันทั้งกรุงเทพฯได้ ต้องขอบคุณทางทหารและทุกหน่วยที่ร่วมมือกัน เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนมั่นใจและอุ่นใจมากขึ้น ที่ทุกคนร่วมมือกันโดยเอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว