เมื่อวันที่ 26 ส.ค.65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ทำร้ายร่างกายทหารหญิงได้รับบาดเจ็บ ว่า ความคืบหน้าของ สภ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอผลการตรวจและทำการสอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจสุขภาพจิตของผู้ต้องหาเพิ่มเติมประกอบสำนวนการสอบสวน รวมถึงทำการสอบสวนปากคำพยานรายอื่นที่เกี่ยวข้องประกอบคดี และรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางจากกองพิสูจน์หลักฐานในพื้นที่ เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบสำนวนคดีตามขั้นตอนต่อไป และในส่วนของ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอทำการสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมและสอบปากคำพยาน รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องประกอบสำนวนคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับการปฎิบัติของเจ้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบรวดเร็ว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งเพื่อป้องกันให้สังคมเกิดความสับสนและเสียรูปคดี จึงขอความร่วมมือติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในของการดำเนินคดีทางอาญาพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนและตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายได้กำหนด โดยต้นสังกัดปัจจุบันของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกดำเนินคดีอาญาได้มีการตั้งคณะการการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องไปแล้ว และเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา สำนักงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการเข้ารับราชการของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนอีกส่วนหนึ่งด้วย

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าได้ดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกัน ภายใต้กรอบกฎหมายที่ได้ให้อำนาจไว้ ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์เหนือใคร และกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการกระทำผิดส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดภาพรวมทั้งหมดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุ