นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เผยว่า เดือนกรกฎาคม 2565 สามารถจัดเก็บภาษีรถประจำปีทั่วประเทศได้ทั้งสิ้น 2,380,963,547.36 บาท มีผู้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ รวมจำนวน 54,838 คัน แบ่งเป็น แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax จำนวน 10,637 คัน ผ่านเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th จำนวน 31,938 คัน เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวน 11,388 คัน ผ่านแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 875 คัน ในส่วนการใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ มีผู้ใช้บริการจำนวน 1,897,336 คัน การใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 322,969 คัน การออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ 22,765 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 691 คัน ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จำนวน 1,850 คัน ฝากผ่านธนาคารที่ร่วมโครงการ จำนวน 2,738 คัน รวมมียอดผู้ใช้บริการชำระภาษีประจำเดือนกรกฎาคม 2565 ทั้งสิ้น 2,303,187 คัน
ทั้งนี้มีเป้าหมายในการยกระดับการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปี เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพการบริการภาครัฐที่เข้าถึง และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนเจ้าของรถได้อย่างยั่งยืน มีหลายช่องทาง โดยเจ้าของรถไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาที่สำนักงานขนส่ง ก็สามารถชำระภาษีรถได้ ทั้งทางเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th หรือแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax โดยสามารถชำระภาษีรถประจำปีล่วงหน้าได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน พร้อมแก้ไขข้อจำกัด โดยให้รถยนต์อายุการใช้งานเกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์อายุการใช้งานเกิน 5 ปี รวมถึงรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี สามารถนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สถานตรวจสภาพ ก่อนชำระภาษีล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ว
นายเสกสม กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax เมื่อมีการชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว สามารถเลือกให้จัดส่งเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ซึ่งจะได้รับภายใน 5 วันทำการนับจากวันชำระเงิน หรือเลือกพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษีด้วยตนเองที่ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ก็ได้ โดยในระหว่างที่รอรับเอกสาร ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราว เพื่อให้เจ้าของรถสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีจากกรมการขนส่งทางบก
ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระภาษีรถประจำปีให้แก่ประชาชนกรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินอย่าง เต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งประชาชนสามารถใช้บริการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ในวันและเวลาราชการ โดยภายในศูนย์บริการร่วมคมนาคมยังมีตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) ให้บริการเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งประชาชนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองทุกขั้นตอนและได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีจากตู้ Kiosk ทันที โดยไม่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก