กรมศิลปากรอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุอานและศิลปวัตถุด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ เตรียมพร้อมนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ณ โรงเรียนสมานมิตรวิทยา จ.นราธิวาส

นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยความคืบหน้าโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอานในพื้นที่ของโรงเรียนสมานมิตรวิทยา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เพื่อสืบทอดมรดกวัฒนธรรมของศาสนาอิสลาม ให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษาเรียนรู้ เข้าใจและเข้าถึงได้ ซึ่งดำเนินงานมาตั้งแต่ พ.ศ. 2557 โดยมอบหมายให้สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ รับผิดชอบในการอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอานและศิลปวัตถุ ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดูแลรักษาซ่อมแซมคัมภีร์อัลกุรอาน รวมถึงศิลปวัตถุที่เกี่ยวเนื่องในศาสนาอิสลาม ให้มีสภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ด้วยหลักวิชาการอนุรักษ์ที่ถูกต้อง ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึง พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของกิจกรรมดังกล่าว

การดำเนินงานอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอานและศิลปวัตถุด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ ในพื้นที่ของโรงเรียนสมานมิตรวิทยา อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส แบ่งเป็น 4 งาน ได้แก่ การปฏิบัติสงวนรักษาศิลปวัตถุด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ เช่น เครื่องมือเครื่องใช้ประเภทไม้ ทองเหลือง เซรามิก เครื่องเคลือบ เครื่องปั้นดินเผา ปืนโลหะ มีด กริช เป็นต้น การกำจัดแมลงที่อยู่ภายในคัมภีร์อัลกุรอาน ประมาณ 70 เล่ม ด้วยความเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำมาก (ลบ 18 องศาเซลเซียส) การซ่อมแซมคัมภีร์อัลกุรอานที่มีการชำรุดและมีอายุยาวนาน และงานสุดท้ายคือการควบคุมความชื้นในตู้จัดแสดงชั่วคราวภายในอาคารเรียน โรงเรียนสมานมิตรวิทยา เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราในตู้จัดแสดง ทั้งนี้ การดำเนินงานในพื้นที่ทุกครั้งกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ ได้รับความร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติงานจากชาวมุสลิมในพื้นที่และชุมชนมุสลิมใกล้เคียง สามารถสร้างบุคลากรในพื้นที่ให้สามารถดำเนินงานอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องในศาสนาอิสลาม อันเป็นการอนุรักษ์แบบยั่งยืน ใช้มิติทางวัฒนธรรมในการส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์และสืบทอดมรดกวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกันในพหุสังคม

กรมศิลปากรเห็นความสำคัญของมรดกวัฒนธรรมที่ตกทอดมาจากอดีต ซึ่งควรจะต้องเก็บรักษาเพื่อให้เป็นมรดกตกทอดของชุมชนในแต่ละพื้นที่และของประเทศ จึงได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์เรียนรู้อัลกุรอานเพื่อเก็บรักษาสมบัติของแผ่นดินให้คงอยู่ต่อไป เมื่อเปิดให้บริการแล้วจะเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานและมรดกวัฒนธรรมอิสลาม ตลอดจนเป็นสถานที่จัดเก็บและจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นสื่อกลางในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีอันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข