วันที่ 22 สิงหาคม 2565 เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บ้านตาวัง อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์  ว่ามีผู้ยากไร้ร้องขอความช่วยเหลือ ผู้สื่อข่าวฯจึงลงพื้นที่ พบกับนายศิลา อินทร์ดี อายุ 35 ปี  อาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน ในบ้านไม่หลังเก่าๆ สภาพทรุดโทรม  หลังคาสังกะสีมีรูรั่ว พื้นบ้านเป็นพื้นดิน ต้องเอาไม้มารองสำหรับวางที่นอนไม่ให้เปียกชื้นเวลาฝนตก สภาพความเป็นอยู่แสนยากลำบาก ต่อไฟฟ้ามาจากบ้านของเพื่อนบ้าน ไม่มีห้องสุขาใช้ ลูกชายคนเล็กเรียนอยู่ ป.2 ลูกชายคนโตเรียนอยู่ ป.5 นายศิลา มีอาชีพรับจ้างทั่วไป  วันไหนมีคนจ้างทำงานก็มีเงินซื้อข้าวกิน  วันไหนไม่มีคนจ้างก็ไม่มีเงินใช้ ต้องใช้ชีวิตอยู่ยากลำบาก ไม่มีหน่วยงานให้การช่วยเหลือ โดยให้เหตุผลว่า บ้านที่นายศิลาอาศัยอยู่นั้นไม่มีเลขที่ จึงไม่สามารถเสนอของบประมาณให้ความช่วยเหลือได้

นายศิลา  ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า  ตนเองรู้สึกสงสารลูกชายทั้ง 2 คน  บางวันก็มีเงินให้ลูกไปซื้อขนมกินที่โรงเรียน บางวันก็ไม่มีเงินให้  ตนเองมีอาชีพรับจ้างทำงานทั่วไปโดยได้เงินค่าจ้างวันละ 300 บาท  แต่ก็ไม่ได้มีงานจ้างทุกวัน  ที่สงสารลูกชายเพราะว่าลูกชายมักจะถามว่า ผมจะได้เรียนหนังสือต่อไมครับ  ตนก็ได้แต่ปลอบโยนลูกไปว่า ยังไงลูกพ่อก็ต้องได้เรียนหนังสือเหมือนคนอื่นๆแน่นอน  ซึ่งตนเองก็พยายามหางานทำเพื่อที่จะเลี้ยงดูลูกชายทั้ง 2 คน  ยอมรับว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก แต่ก็ต้องอดทนสู้เพื่อลูกชายทั้ง 2 คน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวฯ ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากนายชนะชล มูลจันทร์  ประธาน กต.ตร.สภ.บัวเชด   ประธานชมรมผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์จังหวัดสุรินทร์  ซึ่งนายชนะชลก็ได้ลงพื้นที่ทันที โดยได้นำเครื่องอุปโภค-บริโภค เช่น ข้าวสาร ปลากระป๋อง ไข่ไก่  มาม่า น้ำดื่ม น้ำปลา น้ำมันพืช  เส้นหมี่แห้ง น้ำตาลทราย และมอบเงินสดจำนวน 1,000 บาท  เพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้น

นายชนะชล มูลจันทร์  ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า  ตนได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของพ่อ-ลูก ทั้ง 3 ชีวิตแล้ว รู้สึกสงสารเด็กๆมาก  จากนี้ไปจะประสานขอความช่วยเหลืออนุเคราะห์และขอความช่วยเหลือไปยังกลุ่มเพื่อนที่รู้จัก และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ลงมาช่วยเหลือดูแลครอบครัวนี้