วันที่ 22 ส.ค.65 ที่ สภ.กระทุ่มแบน พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์  ผบช.ภ.7 พร้อม พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์  รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อภิชาติ  วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.อ.ปิยะ  เกียรติอมรเวช รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดสมุทรสาคร (ฝ่ายทหาร) พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์  ชั้นประเสริฐ  รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.อภิชิต  สุรพินิจ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ นวท.(สบ.5) ศพฐ.7 พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์  จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน พ.ต.อ.ยอดชาย แก้วเรือง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.เชิดศักดิ์  รอดเข็ม  ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.7 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวจับกุม นายกุศลิน หรือ มี สุขแปดริ้ว อายุ 52 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.202/2565 ลง 15 สิงหาคม 2565 และนายสมปอง หรือ ปอง ลิ้นปิ่น อายุ 66 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.203/2565 ลง 15 สิงหาคม 2565 เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ” 

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวถึงพฤติการณ์แห่งคดีว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.65 เวลาประมาณ 20.51 น. ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายณรงคฤทธิ์ เกตุแก้ว เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองนกไข่ จังหวัดสมุทรสาครได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณบ้านหลังหนึ่ง ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อว่าผู้ก่อเหตุคือผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จึงขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ต่อศาลจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งศาลจังหวัดสมุทรสาครอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.202-203/2565 ลง 15 สิงหาคม 2565 ในข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 49/6 ม.2 ต.เจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จับกุมนายกุศลิน หรือ มี สุขแปดริ้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร และนำหมายค้นศาลจังหวัด สมุทรสาคร เข้าไปตรวจค้นที่บ้านหลังหสนึ่ง หมู่ 4 ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จับกุมนายสมปอง หรือ ปอง (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า "คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์" และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานด้วยความรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ ผบ.ตร. ได้ฝากข้อห่วงใย

การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป